สิ่งมีชีวิตต่างอยู่บนโลกของเรามานับเวลาเป็นล้านปี การกินอยู่ การดำรงชีวิตล้วนอาศัยทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติทั้งสิ้น ภารกิจในการดำเนินชีวิตจึงปรับตัว ปรับสมดุลของตัวมันเองตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงใด ๆ เช่น การย่อยสลาย การคืนสู่ธรรมชาติเกิดขึ้นได้ในเวลาสั้น เพราะธรรมชาติมีทั้ง แสงแดด ลม ฝน ความชื้น เห็ด รา ปลวก เป็นตัวย่อยสลาย มีมด แมลง สัตว์ กัดแทะกินซากทุกอย่าง ความสมดุลจึงคืนสู่ธรรมชาติ
ถึงช่วงเวลาหนึ่งสัตว์มนุษย์ครองโลก ครอบคลุมไปทั่วกว่า 7,000 ล้านคน แม้ผลการสืบค้นทางวิทยาศาสตร์ สรุปว่า สัตว์มนุษย์ทั่วโลกมาจากสายพันธุ์เดียวกันโดยเริ่มอพยพจาก แอฟริกา เมื่อประมาณ 70,000 ปี มาเป็นมนุษย์ปัจจุบัน (สืบค้นจากยีน gene) แต่มนุษย์ไม่สนใจความเป็นพี่น้องยังคงฆ่าฟันกันไปทั่วโลก และยังทำสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ คือ สร้างสิ่งที่ย่อยสลายช้า ย่อยสลายไม่ได้ ให้เกิดขึ้นบนโลกเราอย่างต่อเนื่อง “ขยะที่ไม่ย่อยสลายนี่แหละจะเป็นตัวทำลายโลกใบนี้ในอนาคต”
อนิจจา ช้าง กระทิง อยู่ในป่ากินอาหารจากป่า กินไป ขี้ไป ปลูกป่าทดแทน สร้างความสมดุลให้ธรรมชาติ มนุษย์ถือว่าตัวเองเป็นสัตว์ประเสริฐ มีสมอง มีสติปัญญากลับทำลายสมดุลธรรมชาติ ใครกันแน่ที่รักโลกใบนี้
ถึงช่วงเวลาหนึ่งสัตว์มนุษย์ครองโลก ครอบคลุมไปทั่วกว่า 7,000 ล้านคน แม้ผลการสืบค้นทางวิทยาศาสตร์ สรุปว่า สัตว์มนุษย์ทั่วโลกมาจากสายพันธุ์เดียวกันโดยเริ่มอพยพจาก แอฟริกา เมื่อประมาณ 70,000 ปี มาเป็นมนุษย์ปัจจุบัน (สืบค้นจากยีน gene) แต่มนุษย์ไม่สนใจความเป็นพี่น้องยังคงฆ่าฟันกันไปทั่วโลก และยังทำสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ คือ สร้างสิ่งที่ย่อยสลายช้า ย่อยสลายไม่ได้ ให้เกิดขึ้นบนโลกเราอย่างต่อเนื่อง “ขยะที่ไม่ย่อยสลายนี่แหละจะเป็นตัวทำลายโลกใบนี้ในอนาคต”
อนิจจา ช้าง กระทิง อยู่ในป่ากินอาหารจากป่า กินไป ขี้ไป ปลูกป่าทดแทน สร้างความสมดุลให้ธรรมชาติ มนุษย์ถือว่าตัวเองเป็นสัตว์ประเสริฐ มีสมอง มีสติปัญญากลับทำลายสมดุลธรรมชาติ ใครกันแน่ที่รักโลกใบนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น