วันจันทร์, พฤษภาคม 26, 2551

"ทองขาว"เครื่อข่ายผู้จากไป

“วิมานคนตรัง” เป็นห้องเล็กๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับผู้อยู่อาศัยที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา เพียงแต่วิมานคนตรังอยู่โดดเดี่ยวเพียงห้องเดี่ยว คนเดียว ในพื้นที่ 30 ไร่ จึงรู้สึกเหงาในยามค่ำคืนหรือวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์…. ธรรมชาติไม่ถึงกับโหดร้ายกับคนเสียทีเดียว ยังให้เพื่อนให้พวกมาแก้เหงา … เพื่อนหรือพวกที่ว่านั้นเป็นแมวตัวผู้สีขาวปนสีทองที่พลัดถิ่นมา เราเรียกมันว่า “ทองขาว” เราต่างเป็น เพื่อนและเป็นเครือข่ายของกันและกัน คนและแมวเป็นเครือข่ายกันได้เป็นเพื่อนกันได้ด้วยผลประโยชน์ ทองขาวได้ขนมปังไฮไฟเบอร์ ตอนเช้า 1 แผ่น เป็นอาหารเช้า ได้ข้าวปลาอาหารตอนเย็นอีก 1 มื้อ ใน 1 วัน ส่วนเราได้เพื่อนคุยแก้เหงา เช้าเย็นไปออกกำลังกายจะมีทองขาวไปเป็นเพื่อนเป็นสิ่งตอบแทนแลกเปลี่ยนกัน
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เราจำเป็นต้องเดินทางไปราชการติดต่อกัน 10 วัน หลังจากเสร็จราชการกลับมาวิมานคนตรัง ทองขาวได้ไปจากเราแล้ว คิดถึงทองขาว ……. ทองขาวไม่ได้ผลประโยชน์ที่ควรได้ ทองขาวไม่เป็นเพื่อนไม่เป็นพวกอีกแล้ว “ทองขาวจึงเป็นเพียงเครือข่ายผู้จากไป”

วันจันทร์, พฤษภาคม 19, 2551

คุณค่าของนก

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาตั้งอยู่ใกล้สนามบินจังหวัดตรัง การขึ้นลงของเครื่องบินดูเป็นเรื่องปกติ วันธรรมดาบินลงหนึ่งเที่ยวและรับผู้โดยสารขี้นไปหนึ่งเที่ยว สำหรับวันอาทิตย์จะบินขึ้นบินลงวันละ 2 เที่ยว
บ่ายวันอาทิตย์หนึ่งได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเมื่อมองไปปลายสนามบินเห็นนกสีเหลืองทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ปากแดงสดใส ความรู้สึกบอกว่า "นกแอร์ตัวนี้ดูช่างเหมือนเจ้านกขมิ้นท้ายทอยดำจังเลย เพียงแต่ว่ามันตัวโตกว่าหลายร้อยเท่า" นกแอร์บินไปจนลับสายตาไปแล้ว แต่ความคิดคำนึงยังอยู่ "มนุษย์นี้ช่างสังเกต ช่างเรียนรู้ ช่างเรียนแบบ ช่างทดลอง ช่างพัฒนา สามารถสร้างแรงบันดาลใจจากสิ่งพบเห็น บริบทแวดล้อมรอบตัวนำมาทำให้การดำรงอยู่และวิถีชีวิตดีขึ้น แม้แต่ นกขมิ้นท้ายทอยดำ ยังถูกจินตนาการเป็นนกแอร์ พาผู้คนมากกว่าร้อยชีวิตเดินทางไปตามใจปรารถนา" อย่าละเลยคุณค่าของนกเชียวนะ

วันอังคาร, พฤษภาคม 13, 2551

นกตบยุงหางยาวสอนให้รู้จักคำว่า“บริบท”

ที่ศูนย์วิทย์ตรังมีพื้นที่กว่า 30 ไร่ ด้านข้างและด้านหลังติดกับป่าชุมชน
มีต้นเสม็ดขาว เสม็ดแดงขึ้นอยู่ทั่วไป ยามค่ำคืนจึงต้องมีไฟฟ้าเปิดไว้
ให้แสงสว่าง ครอบคลุมพื้นที่ให้ยามได้สอดส่องดูแล ด้วยอยู่ใกล้ป่าชุมชน
กลางคืนจึงได้ยินเสียงนกตบยุงหางยาว(Large tailed Nightjar)
ซึ่งเป็นนกหากินกลางคืน ร้องเสียงดังเป็นประจำ
คืนหนึ่งด้วยความอยากดูนก กลางคืน จึงขอให้ยามปิดไฟให้ดูเป็นธรรมชาติ
เหมือนอยู่ในป่าจริงๆ นกจะได้ไม่ตกใจ ปรากฏว่าคืนนั้นไม่พบนก ไม่ได้ยินเสียง
นกตบยุงหางยาวเลย
เช้าวันรุ่งขึ้น “แปง” มาถ่ายภาพนกแต้วแล้วป่าชายเลน บริเวณศูนย์วิทย์
ถามแปงว่า “เมื่อคืนนี้ลุงให้ยามปิดไฟจะดูนกตบยุง ทำไมนกตบยุงหายไปหมดเลย”
แปงหัวเราะและอธิบายว่า “ที่ลุงปิดไฟนั้นมันไม่ใช่ธรรมชาติหรอก มันผิดธรรมชาติ
เพราะธรรมชาติที่นี่คือมีไฟฟ้า มีแมลง นกตบยุงกินแมลง พอลุงปิดไฟมันเลยผิดธรรมชาติ
แวดล้อมไปไงล่ะ” เราเข้าไม่ถึงจริงๆ สรุปว่า”นกสอนให้รู้และเข้าใจกับคำว่า บริบทแวดล้อม
เราต้องปรับตัวเองให้เข้ากับบริบทแวดล้อมนั้นๆ ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงบริบทของเขา”

วันจันทร์, พฤษภาคม 12, 2551

นกสอนให้อดทนรอคอย

เส้นทางสายตรัง-พัทลุง เรียบผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ซึ่งเป็นบริเวณที่นักดูนกชอบไปศึกษา เนื่องจากมีเส้นทางหลวงสายเก่าที่เลิกใช้แล้ว สะดวกต่อการเดินดูนก ถนนสายนี้เดิมเรียก สายเขาพับผ้า ซึ่งมีความโค้งมากพับไปพับมา “แปง” ถือกล้องถ่ายภาพราคาเรือนแสนยืนอยู่บนสะพานปูนเก่า ๆ ด้านล่างมีน้ำไหลใสเห็นเม็ดทรายเตรียมจะถ่ายภาพ นกนางแอ่นท้องแดง (Rufous-bellied Swallow) ซึ่งจะพบบริเวณใกล้น้ำมีเฉพาะภาคใต้เท่านั้น บินโฉบไปโฉบมา นับเวลาเป็นชั่วโมงยังไม่สามารถถ่ายภาพได้ เสียงแปงพูดกับตนเองว่า “ทนอีกหน่อยน่าจะเป็นโอกาสของเรา” แปงมีความพยายามจริง ๆ มีสมาธิมุ่งมั่นจดจ่อ อีกประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมานกนางแอ่นคู่หนึ่งบินลงต่ำและบินรอดใต้สะพานที่แปงยืนอยู่ไปทะลุอีกด้านหนึ่ง และมีอีกคู่หนึ่งบินรอดใต้สะพานแต่ไม่ทะลุผ่านไปอีกด้านหนึ่ง แปงดีใจจนเห็นได้ชัด คู่นี้ต้องเกาะอยู่ใต้สะพานแน่ ๆ เมื่อแปงเดินอ้อมลงไปใต้สะพานก็พบนกนางแอ่นท้องแดงคู่หนึ่งเกาะพักอยู่ใต้สะพาน แปงลั่นชัตเตอร์กล้องไปไม่น้อยกว่า 40 ภาพ และพูดกับตัวเองว่า “บางครั้งการอดทนรอคอยก็ทำให้มีโอกาสได้นะ”

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 08, 2551

โคนไม้เคี่ยม

ไม้เคี่ยม เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เนื้อไม้หนัก แข็ง เหนียว นำมาใช้ทำเรือ ทำเสาบ้านรวมถึงเคยนำมาทำหมอนรางรถไฟ ต้นเคี่ยมเป็นสัญญลักษณ์ต้นไม้ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันต้นเคี่ยมเหลือน้อยลงทุกทีการจะหาไม้เคี่ยมมาทำประโยชน์ก็ยากตามไปด้วย
ภูมิปัญญาท้องถิ่นทางใต้ของประเทศรู้ว่า ไม้เคี่ยมเมื่อนำมาเผาเป็นถ่านแล้ว จะให้ความร้อนสูงและไม่แตกเป็นลูกไฟ เหมาะสำหรับการใช้เป็นถ่านตีเหล็กอย่างยิ่ง ความจำเป็นในการใช้ไม้เคี่ยมยังมีอยู่ ช่างตีเหล็กที่ชุมชน "บ้านนาป้อ" จึงต้องหาซื้อถ่านไม้เคี่ยมจากจังหวัดกระบี่ ซึ่งเผาจากโคนไม้เคี่ยมที่ฝังดินเหลืออยู่ในท้องถิ่น
"วันใดหากโคนไม้เคี่ยมหมด ช่างตีเหล็กชุมชนบ้านนาป้อ จะเป็นเช่นไรหนอ"

วันอังคาร, พฤษภาคม 06, 2551

นกรู้จักเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส

ริมทางเดินเข้าสู่สระมรกต บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาประ- บางคราม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ มีนักดูนก 2 ท่าน ทราบภายหลังว่าเป็นรองคณบดี และอาจารย์วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตั้งกล้องถ่ายภาพ และเทเลสโคปดูนกคู่หนึ่งช่วยกันทำรังอยู่ใกล้ๆ ห่างไม่เกิน 3 เมตร ทำรังบนต้นไม้เล็กๆ สูงจากพื้นดินประมาณ 1.5 เมตร นกเล็กๆ คู่นั้นมีชื่อว่า “นกจับแมลงจุกดำ” (Black naped Monarch) อาจารย์ทั้งสองท่านชวนให้มองผ่านเทเลสโคป เห็นนกได้ชัดเจนมาก เห็นจุกดำบนท้ายทอยของตัวผู้ซึ่งมีสีฟ้าเข้ม ทั้งสองตัวเปลี่ยนกันตกแต่งรังด้วยเศษวัสดุเบาๆ เล็กๆ อาจารย์เล่าว่า นกจับแมลงจุกดำมาทำรังใกล้ๆ ทางเดินเพราะหวังว่าคนที่เดินไปเดินมาจะเป็นเกราะป้องกันสัตว์อื่น เช่น กระรอก กระแต ไม่ให้มากินไข่หรือลูกน้อยของตนในยามที่ไปหาอาหาร
“นกจับแมลงจุกดำ รู้จักใช้วิกฤตเป็นโอกาส แล้วท่านละมองทุกสิ่งทุกอย่างในทัศนคติเชิงบอกหรือเปล่าเอ่ย”

แหล่งเรียนรู้ มีภูมิรู้ภูมิปัญญา ภูมิปัญญามีเครือข่าย

“แปง” เป็นชื่อนักศึกษาสัตวแพทย์สาว ปี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอต้องเรียนไปอีก 2 ปีจึงจะจบหลักสูตร เรื่องที่จะเขียนถึงแปงไม่ใช่เธอเรียนเก่ง.... แต่เป็นความสนใจและความมุ่งมั่นของเธอที่มีต่อสัตว์ปีกที่สวยงามและหลากพันธุ์ที่ชื่อ “นก”

3-4 ปี ที่ผ่านมาเด็กหญิงแต่งตัวง่าย ๆ ปอน ๆ เสื้อผ้าสีทึบ ๆ รองเท้าแตะสะพายกล้องดูนกกล้องถ่ายภาพ มีพ่อถือเทเลสโคปเดินผิวปากเลียนเสียงนกอยู่บริเวณป่าชุมชนของจังหวัดตรัง ภาพที่เห็นน่าประทับใจยิ่งความผูกพันของครอบครัว อนาคตสิ่งแวดล้อมของโลกอยู่ในมือแปงอยู่ในมือเด็กเยาวชนที่ใส่ใจเห็นความสำคัญ มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับแปงทำให้ทราบว่า กว่าจะเป็นวันนี้มีปัจจัยอะไรบ้างที่เกื้อหนุนต่อเธอ

ปัจจัยแรก ความรัก ความชอบ ความอยากรู้อยากเห็นของแปง เป็นตัวกระตุ้นเริ่มตั้งแต่สังเกตนกกระจอกใกล้บ้านแต่งขนให้กันและกันอย่างไร ดูทุกวัน

ปัจจัยที่สอง พ่อแม่รักลูกเห็นความตั้งใจของลูกลงทุนจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นให้โดยไม่คำนึงถึงว่าจะราคาอย่างไร เท่าใด

ปัจจัยที่สาม การแสวงหาความรู้จากการอ่านหนังสือค้นคว้าจาก Internet เอกสารวิชาการในเรื่องที่สนใจ

ปัจจัยที่สี่ แปงลงศึกษาภาคสนามโดยการไปดูนกในที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศพบภูมิรู้และภูมิปัญญาดูนกเป็นครูที่ดี คอยให้คำแนะนำและเป็นเครือข่ายมากมาย

วันนี้แปงและพ่อแม่มาชวนให้ไปดูนก มีเครือข่ายแจ้งว่า นกปากกบพันธุ์ชวา (Javan Frogmouth) ฟักไข่อยู่บนต้นไม้ข้างทางเข้าน้ำตกร้อนคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เมื่อไปพบภาพที่ประทับใจมากนอกจากการดูนกที่คุ้มค่าแล้วยังได้พบเครือข่ายของแปง เป็นอาจารย์ 2 ท่าน รองคณบดีและอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่อธิบายเรื่อง นก ให้ฟังด้วยความตั้งใจอย่างดียิ่ง เรานัดพบดูนกกันที่น้ำตกกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช สัปดาห์หน้า

วันเสาร์, พฤษภาคม 03, 2551

วัวชน

ภาคใต้ของไทยที่จังหวัดตรัง มีวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ที่คนตรังและจังหวัดใกล้เคียงสืบทอดอย่างต่อเนื่อง คือ "การชนวัว" การเลี้ยงวัวชนเป็นกิจกรรมที่มองได้หลายมุม
มุมมองแรก เรื่องการดำรงสายพันธุ์ของวัวไทย คนเลี้ยงวัวชนจะคัดเลือกและป้องกันสายพันธุ์วัวชนพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมให้คงอยู่ตลอดไม่ให้สายพันธุ์วัวต่างชาติมาผสม ทำให้วัวไทยพันธุ์แท้ที่แข็งแรงและทนทานต่อโรค ปรากฎอยู่ทั่วไปในจังหวัดภาคใต้
มุมมองที่สอง ความผูกพันธ์ระหว่างคนเลี้ยงกับวัวจะเห็นภาพเจ้าของวัวพาวัวชนออกวิ่งตอนเช้า ๆ ทั้งคนและวัวดูแข็งแรงความใส่ใจดูแลความสะอาด ที่อยู่ อาหาร คนเลี้ยงเกี่ยวหญ้าที่ดีที่สุดที่หาได้ไปเป็นอาหาร วัวชน เป็นกิจกรรมของคนในครอบครัวร่วมกัน
มุมมองที่สาม การชนวัวเป็นวัฒนธรรมของท้องถิ่น วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่สวยงามของชาติ การชนวัวของไทยคล้าย ๆ การสู้วัวกระทิงของประเทศสเปน เป็นสิ่งที่น่าศึกษาเรียนรู้ของคนทั่วโลกในกิจกรรมของวัฒนธรรมนี้
แต่มีคำถาม ถามว่าจะทำอย่างไร วัฒนธรรมการชนวัวยังคงอยู่คู่ชาติตลอดไป โดยวัวชนไม่บาดเจ็บล้มตายจากการต่อสู้ที่น่าสงสาร

วันศุกร์, พฤษภาคม 02, 2551

ผ้ามงคล

วันแรกของการเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ที่จังหวัดตรัง สิ่งที่สะดุดตานอกจากความสะอาดเรียบร้อยของเมืองตรังแล้ว พบเห็นเด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ผู้ชายใช้ผ้าลักษณะคล้าย"ผ้าขาวม้า" สีแดงสด.....รู้สึกชอบรู้สึกดีต่อผ้าสีแดงนี้ คิดในใจว่าเราต้องหาซื้อมาใช้ซัก 2-3 ผืนแน่ หลังจากนั้นเราก็มีผ้าขาวม้าสีแดงคล้องคอเสมอ ๆ รู้สึกอบอุ่นเป็นตัวของตัวเอง คิดและมุ่งมั่นที่จะทำงานตลอดเวลา
นับถึงวันนี้เกือบสามเดือนแล้ว......เพิ่งได้รับคำเฉลยว่าผ้าขาวม้าสีแดงนี้ เรียกว่า "ผ้ามงคล" ใครชอบและใช้จะทำความดีเพื่อแผ่นดิน....