![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhBu22ccViOzbVmTtZxJo3wJ_6CLlIMmiju4twf5GWA4SbZ-HKtZ8Yk7cCk6YiiBMbca5OfFX1quP3BPGeuXbRIvjuAJH6b3aq5QV4AwDc4h4M4t9J6jtJOKq9021uG-VqUhW-r/s200/%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C.jpg)
ปีนี้เป็นปีฉลู พุทธศักราชสองพันห้าร้อยห้าสิบสอง นับเป็นปีที่ปิติสุขปีหนึ่ง เหตุด้วยมีโอกาสเดินทางไปราชการภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ และห้วงเวลาสั้นๆได้เดินทางขึ้นไปบนยอดดอย อินทนนท์ที่สูงสุดในสยาม ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,142 เมตร เวลาประมาณสิบหกนาฬิกาสามสิบนาที ของวันที่สิบสี่ เดือนมกราคม อุณหภูมิบนยอดดอยอินทนนท์ บอก 4 องศาเซลเซียส อากาศหนาวเย็น ฟ้าสดใสมาก เสียงนกหลากหลายชนิด ร้องดังสอดประสานกัน ดูสงบ ร่มรื่น เยือกเย็น ออกเดินช้าๆขึ้นไปบนพระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล ซึ่งเป็นพระมหาธาตุเจดีย์ที่กองทัพอากาศไทย สร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสที่ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ และทรงพระราชทานนามว่า “ พระมหาเจดีย์นภเมทนีดล” มีความหมายว่า “เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน” เมื่อก้าวเข้าไปในพระมหาธาตุเจดีย์ ความเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เป็นความปิติอย่างบอกไม่ถูก กราบพระมหาเจดีย์เสร็จเดินไปรอบๆ เห็นเงาพระมหาธาตุเจดีย์ทอดทับไปบนหมู่ต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่ ให้เกิดสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างถ้วนทั่ว พนมมือตั้งจิตอธิษฐานหากมีบุญวาสนาขอให้เกิดมาเป็นคนไทย เพื่อเป็นข้าผู้รับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดไป