วันเสาร์, ตุลาคม 22, 2554

Windbreak สนกำบังลม


             เมื่อเดินทางออกจากนคร Melbourne ไปทางตะวันตกเพื่อชมเมืองจำลองยุคตื่นทอง ที่ Sovereign Hill เมือง  Ballarat รถวิ่งไปตามถนนพื้นราบประมาณครึ่งชั่วโมง  ถนนลดระดับลงไปในหุบเขา จึงเห็นความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่การเกษตรในหุบเขา พืชผักผลไม้ ผักกาด กล่ำปลี สวนแอปเปิล ปศุสัตว์ ทั้งแกะ วัวเนื้อ ม้า ท่ามกลางทุ่งหญ้าสูงๆ ต่ำๆ ของหุบเขาที่กว้างสุดหูสุดตา  ในพื้นที่ของเกษตรกรแต่ละแปลง  เกษตรกรปลูกต้นสนไว้เป็นแนว ยาวประมาณ 400-500 เมตร ในทิศทางขวางลม  แนวสนนี้เรียกว่า windbreak  ประโยชน์คือ ร่มเงาของต้นสนเป็นที่พักของฝูงแกะยามร้อน  ชะลอความเร็วของลม กำบังที่อยู่อาศัย ประโยชน์เพื่อการหว่านเมล็ดพันธุ์และการให้ปุ๋ยจะไม่ฟุ้งกระจายมากเกินไป  windbreak ปลูกด้วยต้นสนเท่านั้นเพราะพุ่มทึบกิ่งเหนียวทนแรงลมได้ดี

ต้นไม้และการดูแลรักษา



          ทวีปออสเตรเลียเป็นทวีปที่อยู่ใกล้ขั้วโลกใต้   อากาศจึงผันแปรเปลี่ยนแปลงได้เสมอ บางครั้งเย็น บางครั้งร้อน บางทีมีฝนตก  บางช่วงแห้งแล้ง  เคยแล้งติดต่อกันถึง 5-6 ปี จากอากาศที่ผันแปรเช่นนี้ทำให้คนออสซี(aussie)  มีวิถีชีวิตและกฎระเบียบที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของธรรมชาติ  เช่น บริเวณบ้านทุกบ้านต้องมีถังเก็บน้ำฝนไว้รดต้นไม้หรือล้างรถ ห้ามใช้น้ำประปารดต้นไม้ ต้นไม้ที่นำมาปลูกต้องเป็นพันธุ์ที่ต้องการน้ำน้อย  บ้านเรือนประชาชนทุกหลังเมื่อสร้างเสร็จ  ต้องส่งผังบ้านตัวอาคารพร้อมตำแหน่งต้นไม้ให้เทศบาล  ถ้าต้องการตัดต้นไม้แม้ว่าต้นไม้อยู่ในที่ดินของเรา  ต้องขออนุญาตเทศบาลก่อน  หากตัดโดยไม่แจ้งอาจผิดกฎหมายได้   ต้นไม้ริมถนนที่เทศบาลปลูกทุกต้น  มีท่อพลาสติกยางประมาณ  1 เมตร กว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ฝังลงไปใต้ดินบริเวณโคนต้นลึกลงไป ประมาณ 85 เซนติเมตร ท่อพ้นดินประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อกรอกน้ำในฤดูแล้ง  ต้นไม้ทุกต้นถูกตัด ตกแต่งให้ดูดีสวยงามตลอดเวลา นับเป็นรูปแบบที่ดีควรนำไปปฏิบัติในการดูแลรักษาต้นไม้

โรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์

                                       

  กลางนคร Melbourne  มีโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินลิกไนต์แห่งหนึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำ yarra  ใกล้สะพาน West  Gate  สร้างเสร็จมากว่า 30 ปีแล้ว แต่ต้องเป็นหม้ายไม่สามารถเดินเครื่องใช้งานได้  เหตุผลของการสร้างและเหตุผลที่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้มีดังนี้  เหตุผลที่สร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์เพราะถ่านหินลิกไนต์มีจำนวนมหาศาลในรัฐวิคตอเรียซึ่งมีนคร Melbourne เป็นเมืองหลวง  เรียกว่าเชื้อเพลิงวัตถุดิบมีอยู่อย่างเพียงพอ  เหตุผลที่เป็นหม้ายไม่สามารถเดินเครื่องได้  เป็นเพราะเมื่อทดลองเดินเครื่องเปิดใช้งาน นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตรวจพบว่าเขม่าลิกไนต์ถูกลมพัดไปตกบริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน  กลางนคร Melbourne  บริเวณหมู่บ้าน Ashwood  รัฐบาลตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชน จึงปิดโรงไฟฟ้าพลังงานลิกไนต์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แต่ยังคงเก็บไว้เป็นโรงไฟฟ้าสำรอง  หากมีความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในวันข้างหน้า  อยากให้ประเทศไทยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเช่นกรณีตัวอย่างที่เขียนมาจังเลย

ตลาดเปิดท้าย Camberwell


ในยุคฟองสบู่แตกของประเทศไทย พ.ศ. 2540 ถือเป็นความตกต่ำทางเศรษฐกิจ เกิดความซบเซาไปทั่ว ความพยายามอยู่รอดคือการดิ้นรนของผู้คน เกิดตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าจำเป็นราคาถูก ที่เรียกว่า  “ตลาดเปิดท้ายขายของ ปัจจุบันตลาดประเภทนี้ยังคงอยู่คู่ประเทศไทย
   ที่นคร Melbourne ก็มีตลาดเปิดท้าย ชื่อตลาด Camberwell Sunday Market  เป็นตลาดของเทศบาล
Camberwell เปิดตลาดทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 05.00-12.30 น  ใครจะชอปปิงต้องจ่ายค่าเข้าตลาดคนละ 1 ดอลลาร์ ให้กับเทศบาล  ส่วนพ่อค้า แม่ค้า จ่ายค่าเช่าวันละ 40  ดอลลาร์ จึงสามารถนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายได้

   ตลาดเปิดท้าย Camberwell เป็นตลาดสินค้ามือสองจริง ๆ สินค้ากว่าเก้าสิบเปอร์เซนต์เป็นของเก่า ต่างจากตลาดสินค้ามือสองของไทยปัจจุบันกว่าร้อยละห้าสิบเป็นสินค้าใหม่ไปแล้ว 

วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 06, 2554

พอในสิ่งที่ได้ คือ พอเพียง




ในหลวงทรงมีพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมานาน  นานมากพอที่จะทำให้คนไทยทุกกลุ่ม นำมาพูด มากล่าว  นำเสนอถึงวิธีการปฏิบัติ เพื่อแสดงถึงความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง  แต่ก็มีคนไทยอีกไม่น้อยที่ยังเข้าใจคำว่าพอเพียงไม่ถึงแก่นแท้  ที่พอที่จะสอนตนเองได้  รวมถึงผู้เขียนที่เพียรหาคำมาตอบตัวเองว่า  “คำว่าพอเพียงนั้นจะมี คำใด  ความใด  ที่เป็นตัวแทนคำตอบคำว่าพอเพียงได้ชัดเจน จนเป็นเครื่องเตือนใจได้ดีที่สุด ”   จนเช้าวันหนึ่ง (ตีสี่กว่า) เปิดโทรทัศน์ชมรายการที่เสนอเรื่องราวของศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ  ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เขื่อนขุนด่านปราการชล  จังหวัดนครนายก  ภูมิปัญญาที่นำเสนอได้พูดถึง คำว่า “พอเพียง” ว่า “คำว่าพอเพียง คือ พอในสิ่งที่ได้ ได้เท่าใดก็พอเท่านั้น  ไม่แสวงหาสิ่งที่ยังไม่ได้ให้ตัวเองเกิดความทุกข์  หรือคนอื่นเกิดความทุกข์ความเดือดร้อน  นั่นคือความพอเพียง  หากใครคิดได้เช่นนี้ ทุกคนก็จะสุขใจในสิ่งที่มีอยู่ ”
            ใช่เลยถ้าตัวเราพอในสิ่งที่ได้ แล้วเราพอใจ เราก็เป็นสุข ได้อีกเราก็เป็นสุขอีก ไม่ได้ก็ไม่ทุกข์  เพราะเราพอใจในสิ่งที่ได้ก็พอแล้ว