เดือนเมษายนกลางฤดูร้อนที่หฤโหด บางวันอุณหภูมิขยับขึ้นไปถึง 43 องศาเซลเซียส ทั่วพื้นดินร้อนระอุ ต้นไม้โสก บางต้นต้องสลัดใบทิ้งจนหมด เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำจากการคลายน้ำของใบ ความโหดของฤดูร้อนเป็นไปตามกฎธรรมชาติ เฉกเช่นการยิงกระสุนขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อขึ้นสูงสุดกลับหล่นลงสู่พื้นดิน ขณะที่ร้อนสุด ๆ เมฆดำปรากฏตัวขึ้นทางทิศใต้ ลมพัดโชย กิ่งไม้ ใบไม้ที่เหลือเริ่มไหวตื่นตัว ฟ้าคะนอง ฝนและลมซัดซาดกระจายไปทั่วพื้นดิน คางคก อึ่งอ่าง ออกจากที่ซ่อนกระโดดไปตามพื้นดิน มุ่งสู่บริเวณที่มีจอมปลวก นกกวัก วิ่งอยู่บนพื้นจับแมงเม่าแย่งกับอึ่งอ่าง คางคก ฝนเบาลงเวลาผ่านไปช้า ๆ ฟ้าลดการคะนอง ฝนตกเกือบหนึ่งชั่วโมง เมื่อฝนหยุดตก ต้นไม้ทุกต้นสงบนิ่งคงอยู่ในภวังค์ของการดูดซับน้ำฝนที่เฝ้ารอด้วยความอดทนมาตลอดฤดูแล้ง
อีกด้านหนึ่งเกิดมหกรรมกินแมลง โดยเฉพาะการกินแมงเม่าอย่างสนุกสนาน ทั้งนกแซงแซว นกกางเขนบ้าน นกจับแมลง นกอีแพรด โฉบกินแมลงเหมือนว่าอาหารไม่มีวันหมดไปได้เลย
นี่คือลีลาธรรมชาติของประเทศไทยในเดือนเมษายน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น