วันอังคาร, พฤศจิกายน 02, 2553

รอยสักศิลปะบนเรือนร่าง








สัญชาตญาณหนึ่งมีติดมากับยีน(Gene)โคโมโซมของมนุษย์แต่ดึกดำบรรพ์ คือ สัญชาตญาณการพรางตัวมนุษย์พรางตัวให้กลมกลืนกับสถานที่ เพื่อการล่าหรือเพื่อการหลบหลีก อาจใช้สีจากดิน หิน โคลน มาทาใบหน้าและร่างกายในยุคแรก ๆ ต่อมามีการพัฒนารูปแบบการพรางตัวเป็นรอยสักบนเรือนร่าง การสักก็มีพัฒนาการ วัตถุประสงค์ของการสักตามยุคตามสมัย ดังเช่น การสักบนเรือนร่างเมื่อประมาณหนึ่งร้อยปีย้อนไป วัตถุประสงค์ของการสักเพื่อให้ร่างกายอยู่ยงคงกะพัน (หนังเหนียว) แทงฟันไม่เข้า เพราะยุคสมัยนั้นสู้รบกันด้วยอาวุธมีคม ในระยะประชิดตัว เพื่อรักษาชีวิตจึงต้องหาทางป้องกันร่างกายโดยการหาสารจากพืช เช่นจากต้นสบู่เลือดมาเป็นส่วนผสมกับสีของต้นคราม ลักลงไปบนผิวหนัง โดยเชื่อว่าผิวหนังจะอยู่ยงคงกะพัน และเพื่ออำพรางร่างกายได้ การสักยังบอกชั้นของบุคคลในสังคมนั้น เช่นหากชายใดสักเป็นรูปกางเกงขาสั้นตั้งแต่เอวลงไปต้นขา สักบริเวณอวัยวะเพศด้วย เมื่อลงอาบน้ำในแม่น้ำ เขาได้รับสิทธิ์การอาบน้ำเหนือน้ำทุกคนยอมรับ(จากความทรงจำในอดีตของผู้เขียน)
ปัจจุบันการสักพัฒนาไปไกลมาก มีการใช้สีสันหลากสีมาร่วมประกอบการสัก ใช้เครื่องมือช่วยสักที่ไม่สร้างความเจ็บปวดมากนัก การสักจึงเพื่อความสวยงามเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็เพื่อความเชื่อเรื่องเมตตามหานิยม สักแล้วทำให้คนรัก คนชม การสักเพื่อให้อยู่ยงคงกะพันนั้นเบาบางจากหายไป
หมายเหตุ ภาพที่เห็นเป็นรอยสักของชาวมอญ ชื่อเผือก สักโดยเพื่อนที่ซื้อเครื่องสักมาจากประเทศมาเลเซียราคาประมาณหนึ่งพันบาท ผู้สักดูภาพเป็นแบบแล้วสักตามจินตนาการโดยไม่เคยสักมาก่อนเลย