![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiWn4Qb8mLpZ8befbE4lyaV2Uxnjn9Ze_aLXwo49Wcfus2Qqdi3-OCA8W3zsyyfWr9mqUrLDxcletBURxZM9LqQQOdOOIu_4Sv0L-CziHJHKFx2MvR2VrwwqWeC7_beRVOlw-5K/s200/IMG_5843.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWPR4kb5gtg3aXojaXV8ODmQ68eAZ2AMRN1Zbqywb3GohrTDUVR2IM6ny7PZSn-wiceoW8YSLwUWgGXi0A1nGHOjR3EHR2DLGaNL7djHIqXB9onovnPdK7PWof4VtVlanI1DLc/s200/IMG_5842.jpg)
ข้อสรุปทางธรณีวิทยาของดินสระแก้ว (Sa kaeo series : Ska) คุณสมบัติทางเคมีมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ อินทรียวัตถุ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมต่ำ ดินมีความเป็นกรด pH 5.0 – 6.5 เป็นดินที่เกิดจากตะกอนน้ำพัดพามาทับถมบนที่ราบตะกอนน้ำพาบริเวณตะพักลำน้ำจึงเป็นดินตื้น พบลูกรังภายใน 50 เซนติเมตร ไม่เหมาะในการเกษตร เพราะจะใช้การจัดการอย่างมาก ควรปล่อยไว้เป็นป่าธรรมชาติ
ที่ฐานเรียนรู้เรื่องดินของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว ขุดเป็นหลุมลึกประมาณหนึ่งเมตรห้าสิบเซนติเมตร ทำบันไดเดินลงไปศึกษาชั้นดิน ดินบนเป็นดินร่วนปนทรายปนกรวดสีน้ำตาล ดินล่างเป็นดินร่วนเหนียวปนกรวดสีเหลืองปนแดง ถัดลงไปเป็นดินเหนียวสีเหลืองปนแดงที่ความลึก 150 เซนติเมตร ถึงฤดูฝนน้ำใต้ดินเต็มบ่อ ขอบหลุมพังทลายด้วยดินล่างเป็นดินเหนียวที่อ่อนนุ่ม เมื่อขังน้ำจึงทำให้ขอบหลุมพัง ซึ่งเป็นธรรมชาติของดินสระแก้วเป็นสภาพที่ควรศึกษาเรียนรู้ถึงบริบทแหล่งทางธรณีวิทยาของดินสระแก้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น