วันศุกร์, สิงหาคม 28, 2552

ดอกไม้และต้นไม้ต่างแดน




















สวนสาธารณะนครซิดนีย์

ที่นครซิดนีย์ภูมิประเทศเป็นเขาหินทรายในระดับที่เป็นเนินลดหลั่นกัน การสร้างเมืองจึงเป็นไปตามธรรมชาติทั้งถนนและอาคารบ้านเรือนเหมือนอยู่บนลอนคลื่น ข้อดีคือน้ำไม่ท่วม เมื่อฝนตกน้ำไหลไปสู่ที่ต่ำและไหลไปตามแม่น้ำลำคลองลงสู่ทะเล ในสวนสาธารณะก็เช่นกัน กลางเมืองมีสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ถนนในสวนสาธารณะกว้างมาก มีเสาไฟและโคมไฟแต่ซ่อนสายไฟไว้ใต้ดิน ผู้คนเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย นักดนตรีบรรเลงเครื่องเป่าคล้ายวณิพกของไทยเรา ใครเหนื่อยก็มีม้านั่งทำด้วยไม้ขาเป็นเหล็กหล่อรูปแบบโบราณมีวางอยู่ทั่วไป บ้างนั่งพักเหนื่อย บ้างนั่งอ่านหนังสือ บ้างก็นั่งให้อาหารนกซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติ นกที่เห็นล้วนแล้วแต่ไม่รู้จัก ที่คล้ายเมืองไทยคือนกแก้วหลากสีบินไปบินมา ศูนย์กลางของสวนสาธารณะมีน้ำพุ มีรูปหล่อโลหะอยู่ในบริเวณน้ำพุ เป็นรูปนักรบโบราณ
ด้านหลังสวนสาธารณะมีสวนดอกไม้ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ชื่อว่า สวนดอกไม้พระเจ้าจอร์จ (GEORGE V) ดอกไม้มีสีสันสดสวย ผู้คนในนครซิดนีย์ชอบนั่งดื่มกาแฟ ช่วงเวลานี้ยังอยู่ในฤดูหนาวดูแล้วแต่งตัวสวยงามทันสมัย
นั่งพักผ่อนคิดอะไรเพลิน ๆ ได้ยินเสียง silent รถดับเพลิงวิ่งผ่านไปรถทุกคันหลีกทางให้เพราะที่นี่กลัวไฟไหม้มากทั้งไฟป่าและไฟตามอาคารสูงๆ ระบบการสื่อสารของอาคารต่างๆเชื่อมต่อกับหน่วยดับเพลิงโดยตรง

วันอังคาร, สิงหาคม 25, 2552

คิดถึง...canberra




















GEORGE STREET

ถนนหลักของนครซิดนีย์ คือ George st . ชื่อถนนตั้งให้เกียรติพระเจ้า GEORGEที่ 5 นั้นเอง หลังจากคณะดูงานไปชม POWERHOUSE MUSEUM ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่อง พลังงานและการออกแบบ (อาคารเป็นอาคารเก่า ที่เป็นโรงงานเครื่องจักรไอน้ำนำดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์) คณะเรานั่งพักอยู่หน้าร้าน Mc. DONALD ดื่มกาแฟกัน มีพ่อกับลูกชายนำอาหารมาให้นกนางนวลตัวสีขาวปากแดงเท้าแดงเชื่องมากๆ ท่านเลขาธิการ ให้ความรู้เรื่องนกนางนวลว่า “ นกนางนวลมีมากกว่า 20 สายพันธุ์ ที่บ้านเราที่บางปูผมเห็นมี 2 ชนิด เมื่อมีเวลาชอบไปนั่งดู” ท่านยังเล่าแบบตลกว่า “ ผมไม่ค่อยอยู่บ้านนกกะปูดมันมาอาศัยอยู่ใต้ถุนบ้านผมแล้ว”
การจราจรสาธารณะในนครซิดนีย์ มีหลายรูปแบบ รถราง รถรางเล็ก รถไฟฟ้า รถไฟ วิ่งกันขวักไขว่ทั้งใต้ดินบนดินบนฟ้า




นครแคนเบอร์ร่า เป็นรัฐเมืองหลวงอิสระ เป็นนครของเจ้าหน้าที่ราชการ เป็นที่ตั้งของสถานทูตจากทั่วโลก จึงมีความสงบ สะอาด สวยงาม ปลอดภัย

รอยยิ้มจากมิตรภาพต่างแดน












Sydney Distance Education High School SDEHS เป็นสถานศึกษาทางไกลของรัฐบาลออสเตรเลีย ที่ดัดแปลงอาคารเก่าหรือบ้านเรือนในสมัย ประมาณ ค.ศ. 1883 มาเป็นสถานศึกษา ภูมิทัศน์แตกต่างไปจากสภาพทั่วๆไป อาคารสูงเพียง 2 – 3 ชั้น ใช้สีเก่า ๆ มีภาพกิจกรรมที่นักศึกษาเขียนไว้ ประดับห้องเรียน มีการเรียนการสอนไม่มาก เห็นเด็ก ๆ เล่นกีฬา (เด็กอนุบาล) อย่างอิสระครูยืนดูอยู่ห่าง ๆ มีการเรียนการแสดง Drama ห้อง present ใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอ คือ กระดานสัมผัส ในลักษณะคล้ายจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่อยู่หน้าห้องเรียน ผู้นำเสนอใช้สื่อได้ดี ใช้เวลากระซับใช้เทคนิคหลากหลาย เปลี่ยน Software หลายรูปแบบ คุณ Mark ผู้จัดการได้นำเสนอประเด็นสำคัญของ SDEHS คือFlexible Learning : Blended Delivery Quality Individualised Education“ยึดหยุ่นในการเรียน : เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เน้นคุณภาพการศึกษารายบุคคล”โดยขยายความ Flexible Learning Blended Delivery ได้แก่ 1. Printed Learning materials 2. Online Units of work and courses 3. Laptops 4 Learning 4. CD and DVD 5. Telephone 6. E mail 7. Videoconferencing- field service visits to home and School- Study days- Excursionsเมื่อเสร็จจากการนำเสนอ เจ้าภาพพาคณะเยี่ยมชมอาคารสถานที่ เช่น ห้อง e – learning ห้อง Drama พร้อมเลี้ยงอาหารว่าง ที่เรียกว่า Finger Foods และชา กาแฟ ทุกคน ประทับใจ มีแต่รอยยิ้มให้กันสุดท้าย ท่านเลขาธิการ กศน. มอบของที่ระลึก คณะผู้บริหารและครู ถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนจากคุณ Mark ยกมือไหว้แบบคนไทย
คณะของเราไปศึกษาดูงานที่ Sydney distance education high school ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่ง...ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

วันจันทร์, สิงหาคม 17, 2552

นครซิดนีย์ ที่รัก

Powerhouse museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องพลังงาน และการออกแบบ (Science and design) ตัวอาคารถูกดัดแปลงมาจากโรงงานเครื่องจักรที่ใช้ไอน้ำดั่งเดิม โดยจัดแสดง 4 ชิ้น ที่สำคัญและน่านำกลับมาใช้ในบ้านเรา คือ พื้นที่กิจกรรมของพิพิธภัณฑ์ 2 พื้นที่กิจกรรมคือ พื้นที่กิจกรรมแรก มีการเรียนการนำเสนอผลงานการออกแบบของผู้สนใจ โดยมีผู้รู้คอยวิจารณ์ผลงานให้ พร้อมทั้งมีพื้นที่ให้ผู้เรียนนำเสนอผลงานการออกแบบไว้ในพิพิธภัณฑ์ มีบางพื้นที่ผู้เรียนได้สังเกตภาพสิ่งของในพิพิธภัณฑ์แล้วนำไปออกแบบ ผู้เรียนมีสมาธิ และมีความสนใจในการทำงานมาก ผู้เรียนไม่สนใจผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์เลย
พื้นที่กิจกรรมที่สอง เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ใช้ประโยชน์หลายด้านใช้สำหรับเล่านิทานหรือให้นำเสนอเรื่องราวต่างๆ ของผู้เรียนที่เรียกว่า Coqs workshop
สรุปว่า เราสามารถดัดแปลงอาคารและกิจกรรมดั่งเดิมพร้อมเสริมกิจกรรมใหม่ ๆ ทันสมัย เข้าไป ก็สามารถเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวาได้ ซิดนีย์...สิ่งที่สุดยอดคือเป็นนครที่ซ่อนสายไฟฟ้า..จึงดูสะอาดไม่เกะกะรกรุงรัง...ทำถูกต้องหนึ่งอย่างดูดีไปสิบอย่าง....สิ่งปลูกสร้างเป็นไปตามความสูงต่ำของพื้นดิน....ไม่ถมให้น้ำท่วมขัง...

Sydney และ Canberra ประเทศ ออสเตรเลีย






ความสวยงามของซิดนีย์และแคนเบอร์ร่าประเทศ Australia ระหว่างวันที่ 3 -8 สิงหาคม 2552 บนเส้นทางสายนครซิดนีย์สู่แคนเบอร์ร่า
คณะเดินทางออกจากนครซิดนีย์ เวลา ประมาณบ่ายโมง โดยรถ Coach 36 ที่นั่ง แต่คณะเราไปรวมกัน 20 คน ทุกคนจึงจับจองที่นั่งริมหน้าต่าง เตรียมชมทัศนียภาพสองข้างทางตลอดการเดินทาง
เมื่อออกพ้นนครซิดนีย์ถนนที่เรียกว่า “High way” ก็ไม่มีไฟเขียวไฟแดงอีกต่อไป มีเฉพาะทางแยกไปทั้งสองฝั่ง เป็นทางแยกในชนบทที่ไม่เห็นบ้านเรือนผู้คนเลย รถ Coach วิ่งผ่านฟาร์มปศุสัตว์มองสุดสายตา มีฟาร์มโคเนื้อพันธุ์สีดำ สีแดง สีแดงขาว ฟาร์มม้าที่พิเศษคือเจ้าของฟาร์มห่มผ้าให้ม้า ส่วนใหญ่เดินกินหญ้าอยู่ในฟาร์ม ฟาร์มแกะมองไกล ๆ เหมือนก้อนซาลาเปาและฟาร์มจิงโจ้ จริง ๆ แล้วจิงโจ้ชอบแอบไปอยู่ในฟาร์มของเกษตรกรเสียมากกว่า ผ่านไร่องุ่นที่มองเห็นเพียงต้น เจ้าของฟาร์มตัดใบทิ้งหมด ดร.อัจฉรา เล่าให้ฟังว่า “ฤดูหนาวเกษตรกรต้องตัดใบองุ่นทิ้ง เพราะน้ำในใบจะเป็นน้ำแข็งทำให้องุ่นเสียหาย”
รถวิ่งผ่านดอกไม้ป่าสองข้างทางดอกสีเหลืองตัดกับใบสีเขียวสวยงามมาก เห็นมีเพียงดอกไม้ชนิดนี้ชนิดเดียวแหละที่บานดอกตัดกับความแห้งแล้งของฤดูที่ใบไม้ร่วงเกือบหมด มัคคุเทศก์อธิบายว่า ปีนี้อากาศแปรปรวนดอกไม้สีเหลืองบานเร็วผิดปกติ แต่ผู้เขียนคิดเองว่า ธรรมชาติของออสเตรเลียให้รางวัลคณะศึกษาดูงานและการเจรจาเสียมากว่า
ระยะทางจากนครซิดนีย์ถึงแคนเบอร์ร่า ประมาณ 270 กิโลเมตร แม้จะเป็น High way แต่รถ coach ก็ทำความเร็วได้ไม่เกิน 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเมื่อขับไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ต้องหยุดพัก ผู้เขียนมองเห็นพนักงานขับรถนั่งบันทึกรายละเอียดลงในเอกสารขณะหยุดรถ เชื่อว่า เพื่อการตรวจสอบว่าปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ หากคนขับรถไม่ปฏิบัติตามอาจถูกสั่งพักการขับรถเป็นเวลาถึง 3 ปี จึงไม่น่าเสี่ยงในการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
เมื่ออีกประมาณ 50 กิโลเมตร ก่อนถึงแคนเบอร์ร่า คณะเดินทางมองเห็นกังหันลมติดตั้งบนกูเขาลูกเล็ก ๆ ที่ลดหลั่นกัน ในทุ่งหญ้านับได้เป็นร้อย ๆ เครื่อง ชาวคณะศูนย์วิทย์ฯตื่นเต้นเสียงดังท่านเลขาธิการ สั่งให้รถหยุดที่จุดพักรถให้พวกเราได้ถ่ายภาพกังหันลมอย่างจุใจ มีนายรู้ใจทุกคน Happy รถวิ่งเข้าใกล้ แคนเบอร์ร่าธรรมชาติที่เป็นทุ่งหญ้าเริ่มกลายเป็นภูเขามีต้นไม้เห็นไกล ๆอยู่ทั่วไปคล้ายกับกำแพงที่ล้อมนครแคนเบอร์ร่าไว้ น่าจะด้วยเหตุนี้อุณหภูมิแคนเบอร์ร่าจึงต่ำกว่านครซิดนีย์ถึง 10 องศาเซลเซียส