หลายปีที่ผ่านมา รางน้ำที่ทำด้วยปูนซีเมนต์ ข้างถนนลาดยางซึ่งทอดขึ้นไปยังน้ำตกปางสีดาเคยเป็นทางไหลของน้ำใสสะอาดจากต้นน้ำตกลงไปหล่อเลี้ยงพืชผลในส่วนล่างของอุทยานตลอดมา ฤดูฝนปีนี้เกิดความผิดปกติน้ำที่เคยไหลบนรางกลับไหลอยู่ใต้รางเสียงดังก้อง... ผลที่ตามมาคือบนรางปูนซีเมนต์ไม่มีน้ำใสอย่างเคยแม้แต่หยด ใต้รางปูนซีเมนต์ถูกกัดเซาะเป็นโพรง ระยะทางยาวกว่าสี่ห้าร้อยเมตร บางช่วงรางปูนซีเมนต์ถูกน้ำดันยกขึ้นพังเสียหาย ซึ่งความจริงแล้วการสูญเสียเกิดขึ้นกับรางน้ำทั้งหมด
ถามว่า อะไรเกิดขึ้นกับรางน้ำ... หากคำตอบ ตอบว่า หญ้าข้างรางน้ำยาวเกินไป ทำให้มองไม่เห็นการกัดเซาะของน้ำที่ไหลมาจากเชิงเขารอดผ่านลงไปใต้ราง จากร่องเล็กแล้วขยายขนาดเพิ่มขึ้น เมื่อไม่ได้ดูแลซ่อมแซมจึงเป็นเหตุให้เกิดน้ำไหลใต้รางใช่หรือไม่...
หากเป็นเช่นนี้จริง อุทาหรณ์ น้ำไหลใต้รางในครั้งนี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับภารกิจการงานขององค์กร หากว่าบุคลากรต่างทำงานไปคนละทิศ คนละทาง ผู้บริหารขาดการสอดส่องดูแล ผลที่ตามมานอกจากผลลัพธ์
ที่ควรได้กลับไม่ได้แล้ว อาจเป็นความเสียหายอย่างมหาศาลดังเหตุการณ์ “น้ำไหลใต้รางที่ปางสีดา” ในครั้งนี้
ถามว่า อะไรเกิดขึ้นกับรางน้ำ... หากคำตอบ ตอบว่า หญ้าข้างรางน้ำยาวเกินไป ทำให้มองไม่เห็นการกัดเซาะของน้ำที่ไหลมาจากเชิงเขารอดผ่านลงไปใต้ราง จากร่องเล็กแล้วขยายขนาดเพิ่มขึ้น เมื่อไม่ได้ดูแลซ่อมแซมจึงเป็นเหตุให้เกิดน้ำไหลใต้รางใช่หรือไม่...
หากเป็นเช่นนี้จริง อุทาหรณ์ น้ำไหลใต้รางในครั้งนี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับภารกิจการงานขององค์กร หากว่าบุคลากรต่างทำงานไปคนละทิศ คนละทาง ผู้บริหารขาดการสอดส่องดูแล ผลที่ตามมานอกจากผลลัพธ์
ที่ควรได้กลับไม่ได้แล้ว อาจเป็นความเสียหายอย่างมหาศาลดังเหตุการณ์ “น้ำไหลใต้รางที่ปางสีดา” ในครั้งนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น