วันอังคาร, มีนาคม 31, 2552

ปราสาทเขาน้อยสีชมพูครั้งที่สอง


ปราสาทเขาน้อยสีชมพู ในวันที่ 31 มีนาคม 2552 ดูสดใสแปลกตา ด้วยช่วงเวลานี้ต้นตะแบกผลัดใบมีดอกสีม่วงอ่อน ๆ บานอยู่เต็มต้นฟ้าเลยดูโปร่งใส พื้นดินรอบ ๆ บริเวณปราสาททั้งสามองค์ ชุ่มชื้น ฝนคงตกไปเมื่อวันวาน ปราสาทเขาน้อยสีชมพูตั้งอยู่บนภูเขาลูกเล็ก สูงจากระดับพื้นดินปกติไม่มาก สังเกตจากบันไดทางขึ้นนับก้าวแล้วประมาณ 100 กว่าขั้นเท่านั้น และเป็นบริเวณภูเขาที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทำให้พบเห็นสัตว์ เช่น กระรอก , กระแต(ตัวเล็กๆคล้ายกระรอก) , ไก่ป่า , นกกะปูด , นกแซงแซวสีเทา , นกกางเขน
เมื่อเข้าไปกราบไหว้พระปรางค์ ทำให้นึกถึงคนสมัยโบราณที่สร้างปรางค์ปราสาท เขาทำได้วิจิตร ประณีต สวยงาม และตั้งใจจริง ๆ เหลี่ยมของอิฐ ความโค้งเว้ารูปทรงที่ปรากฏน่าประทับใจมากและเมื่อได้อ่านข้อมูลรายละเอียดประกอบ ปราสาทเขาน้อยแล้ว ทำให้ทราบว่าปราสาทเขาน้อยสีชมพู เป็นพุทธสถานที่ก่อสร้างราว พ.ศ. 1180 นับถึงปัจจุบันก็ 1370 กว่าปีมาแล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม ปราสาทเขาน้อยสีชมพู ตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

วันจันทร์, มีนาคม 30, 2552

ฐานดิน


คนทุกคนย่อมมีความใฝ่ฝันหรือมีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตของตนเองใช่ไหม เมื่อสามสิบปีที่ผ่านมา เรามีความใฝ่ฝันต้องการเป็นข้าราชการเพื่อรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความใฝ่ฝันนั้นไม่เคยทำให้เราเปลี่ยนเส้นทางเลยตลอดเวลาการทำงานสามสิบกว่าปี งานสิ่งใดที่เป็นโอกาสที่จะทำถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม การบวชเพื่อถวายในโอกาสต่าง ๆ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงการนำพาประชาชนศึกษาเรียนรู้แนวคิดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง การพาประชาชน นักศึกษา ไปศึกษาแหล่งการเรียนรู้โครงการพัฒนาดินเปี้ยวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่อำเภอบ้านนาและที่แห่งนี้แหละที่เป็นที่จุดประกายความคิดให้เราว่า หากวันใดเราได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา การพัฒนา “ฐานดิน” ให้เป็นฐานการเรียนรู้ต้องปรากฏ ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประชาชนชาวไทยทุกคน

วันพฤหัสบดี, มีนาคม 26, 2552

ความงามของ"ลูกสะบ้า"


สัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสไปศึกษาการเลี้ยงตัวอ้นที่ดอยมูเซอ ดูแล้วก็น่าสนใจดีแต่จะเขียนถึงการเลี้ยงตัวอ้นในโอกาสหลัง เรื่องที่จะเขียนวันนี้เป็นเรื่อง “ลูกสะบ้า” เพราะเม็ดลูกสะบ้าที่พบที่ตลาดชาวเขาดอยมูเซอมีความสวยงามมาก ชาวเขาชั่งกิโลขายกิโลกรัมละ 20 บาท ซื้อมาหนึ่งกิโลนับเม็ดสะบ้าได้ 53 เม็ด ชาวเขานำฝักสะบ้ามาขายด้วยฝักยาวประมาณหนึ่งเมตรแต่ไม่คอยสนใจฝักเท่าไร
เหตุที่สนใจลูกสะบ้าเพราะลูกสะบ้าดูแกร่งผิวเป็นมันวาว มีรูปทรงและขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ดูเป็นศิลปะดี มองลูกสะบ้าทำให้คิดถึงลูกสาวคนโตคนเดียว ดูลักษณะถ้าจะเปรียบเทียบเธอกับลูกสะบ้าพอใกล้เคียงกันแกร่งสวยดูดี อีกประเด็นหนึ่งลูกสะบ้ายังเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เล่นช่วงประเพณีสงกรานต์ในกลุ่มคนหลายชาติเช่น มอญ หรือคนไทยในภาคต่าง ๆ หากสนใจว่าเล่นสะบ้าเล่นอย่างไรให้เข้าไปดูใน Website http://www.prapayneethai.com/ ลูกสะบ้าเป็นเม็ดพืชจากฝักเถาไม้เลื้อย ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็มีอาจพบได้บริเวณทางเดินขึ้นไปบริเวณสนามกอล์ฟเก่าที่ปิดไปแล้ว เถาของลูกสะบ้าจะเลื้อยไปบนต้นไม้ใหญ่จึงดูเหมือนว่าสะบ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ไปเลย

วันพุธ, มีนาคม 25, 2552

นกปรอดสวนที่บ้านสวน




ห้องน้ำที่บ้านสวนเป็นห้องน้ำที่ออกแบบสบาย ๆ ไม่มีหลังคา และยังปลูกต้นลีลาวดี (ลั่นทม) ไว้ในห้องน้ำอีกหนึ่งต้น บริเวณกิ่งของลีลาวดีเอากล้วยไม้ตระกูลหวายไปแขวนไว้ 1 กระถาง เมื่อเข้าห้องน้ำมองลีลาวดีบ้าง มองกล้วยไม้บ้างก็เพลินดี
มาระยะหนึ่งต้องไปทำงานต่างจังหวัดหนึ่งสัปดาห์จึงได้กลับไปบ้านสวนครั้งหนึ่ง เจ้านกปรอดสวน (Streak-eared Bulbul) กลัวบ้านจะเหงาเลยมาอยู่เป็นเพื่อนทำรังที่กระถางกล้วยไม้นั่นแหละ
สัปดาห์แรกแอบดูที่รังเห็นไข่สองฟอง กลับไปอีกสัปดาห์เป็นลูกนกแล้วแต่มีเพียง 1 ตัว สัปดาห์ที่สามนกปรอดสวน(Streak-eared Bulbul) ก็พาลูกน้อยออกท่องเที่ยวพเนจรแล้ว
มีคำถาม ถามตัวเองว่า ทำไมนกปรอดสวน(Streak-eared Bulbul) จึงมาทำรังอยู่ใกล้คน เป็นเพราะเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่บ้านในช่วงเวลากลางวันใช่ไหม หรือว่าต้องการให้คนปกป้องรังและลูกน้อยของมันให้พ้นอันตรายจากสัตว์อื่น ๆ ปรอดสวนไม่ต้องตอบก็ได้นะ

วันอังคาร, มีนาคม 24, 2552

เจ็ดเมษายนของลูกสาวคนเดียว

พอใกล้เดือนเมษายนของทุกปี ความรู้สึกบอกว่าใกล้เข้าสู่ฤดูร้อน ใกล้ถึงวันสงกรานต์และเป็นช่วงเวลาปิดเทอมของนักเรียนทั้งหลาย คุณครูก็เหมือนได้พักหายใจซักหนึ่งเดือน เด็กๆนักเรียนช่วงปิดเทอมไปหาที่เรียนพิเศษกันในกรุงเทพ ไปพักหอพักบ้างอยู่กับญาติบ้าง
ลูกหวายเป็นลูกสาวที่ช่วงเดือนเมษายนไม่ค่อยได้อยู่บ้านมาตลอดแม้ว่าในวันที่เจ็ดเมษายนจะเป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอก็ตาม เกือบสามสิบปีมาแล้วที่ลูกหวายเร่ร่อนไปในที่ต่าง ๆ เมษาปีนี้ไปอยู่กับยาย เมษาปีนี้ไปเรียนพิเศษอยู่ที่กรุงเทพ เมษาปีนี้ไป Summer ที่ AUSTRALIA เมษาปีนี้ไปทุน AFS ที่ ITALY เมษาปีนี้ไปทำงานที่ซิดนีย์ สำหรับเมษายน สองพันห้าร้อยห้าสิบสอง เธอจะอยู่บ้านฉลองวันเกิดกับคุณพ่อ คุณแม่ น้องชายและใครอีกสักคนหนึ่ง เราจะไปดูหนังเรื่องก้านกล้วย 2 ด้วยกัน

วัดร่องขุ่นพุทธประติมากรรม


ที่จังหวัดเชียงรายมีประติมากรรมทางพุทธศาสนาแห่งหนึ่งที่ผู้คนหลั่งไหลไป เยี่ยมชมทั้งชาวไทย และจากชาวต่างประเทศ พุทธประติมากรรมแห่งนี้คือ “วัดร่องขุ่น” บุคคลผู้รังสรรค์วัดร่องขุ่นท่านเป็นศิลปินแห่งชาติคือ ท่านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ศิลปินแห่งชาติชาวเหนือที่มีศิลปะหลุดพ้นกฎเกณฑ์หรืออาจกล่าวได้ว่า “ศิลปินแห่งจินตนาการ” เป็นจินตนาการที่เหนือกว่าความรู้ใด ๆ ภาพวัดร่องขุนที่ปรากฏจึงเป็นดั่งเทพนิยายบนสรวงสวรรค์ มีความโดดเด่น เบาพลิ้ว อ่อนไหว สงบนิ่ง สวยงามเหนือพรรณนา
ในหลายปีที่ผ่านมาท่านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ไม่เคยหยุดการรังสรรค์ผลงานและท่านยังกล่าวไว้อีกด้วยว่า ในอนาคตลูกศิษย์ของท่านยังจะรังสรรค์ผลงานวัดร่องขุ่นต่อไปอีกสามรุ่น การกล่าวเช่นนี้เป็นการบอกให้ทราบว่า การที่ผู้คนหลั่งไหลมาเยี่ยมชมวัดร่องขุ่นนั้นเกิดจากวัดร่องขุ่นไม่หยุดการพัฒนา ศิลปะใหม่ ๆ จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในลักษณะที่เรียกว่า พลวัต (Dynamics) เป็นดั่งพายุหมุนขยายอย่างไร้ขอบเขต ความสวยงามแห่งพระพุทธศาสนาจึงเผยแผ่กระจายไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่องและอีกยาวนานชั่วนิจนิรันดร์

วันจันทร์, มีนาคม 23, 2552

สตรอเบอร์รี่กับใบตองตึง


ที่ดอยมูเซอ จังหวัดตาก มีชาวเขาปลูกต้นสตรอเบอร์รี่ไว้ตามเนินเขาลดหลั่นกัน สตรอเบอร์รี่ที่นี่ผลอาจไม่ใหญ่เหมือนที่ปลูกที่จังหวัดเชียงใหม่หรือเชียงรายแต่ผลก็ดูสวยงาม การปลูกสตรอเบอร์รี่ปลูกเป็นร่องและทำเหมือนขั้นบันได บริเวณโคนต้นสตรอเบอร์รี่ตลอดร่องที่ปลูก ชาวเขานำใบไม้ชนิดหนึ่งเรียกว่า “ใบตองตึง” ใบใหญ่มีลักษณะคล้ายใบสักมาคลุมดินไว้ด้วยวัตถุประสงค์คือรองรับผลสตรอเบอร์รี่ ทำให้ผลสตรอเบอร์รี่ดูสวยงามไม่สัมผัสกับพื้นดินและป้องกันไม่ให้มดกัดผลสตรอเบอร์รี่อีกด้วย
ภูมิปัญญาชาวเขาหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นล้วนสั่งสมประสบการณ์เป็นภูมิรู้ การคาดเดาด้วยกระบวนทัศน์ (Paradigm) ของเราอาจทำไม่ได้ อาจผิดจากความเป็นจริงดั่งเช่นตัวอย่างใบตองตึงที่ชาวเขานำมาคลุมดินโคนต้นสตรอเบอร์รี่ มิใช่เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำอย่างที่คิด แต่ความจริงแล้วเพื่อป้องกันมดกัดผลสตรอเบอร์รี่...ฉะนั้นการได้ซักถามสัมภาษณ์จากผู้รู้จริง ผู้ปฏิบัติจริงจึงเป็นคำตอบที่น่าจะถูกต้องที่สุด

ดอยมูเซอ


คนภาคเหนือเรียกภูเขาว่า “ดอย” ดอยมูเซอน่าจะมีความหมายเชิงปรากฏ คือมีชาวเขาเผ่ามูเซออยู่ที่บริเวณภูเขาแห่งนี้ ดอยมูเซออยู่จังหวัดตากตามเส้นทางไปอำเภอแม่สอด อยู่ห่างจากถนนสายเอเชียประมาณ 30 กิโลเมตร มนต์เสน่ห์ของดอยมูเซอ คือ ความสวยงามของภูเขาที่มีป่าไม้ไม้อุดมสมบูรณ์ บริเวณใดที่มีต้นงิ้วป่าออกดอก มักพบเห็นนกแซงแซวหงอนขน เป็นฝูง 6-7 ตัว บินเกาะโผกินแมลง และกินน้ำหวานจากดอกงิ้วอยู่ที่ต้นงิ้วป่า นกแซงแซวมีสีดำตัดกับดอกงิ้วสีแดงปนส้มดูสดใสเบิกบาน กลางวันอากาศเย็นสบาย ๆ กลางคืนอุณหภูมิประมาณ 15 องศาเซลเซียส อากาศหนาว ความเงียบสงบร่มเย็น กาลเวลาดูเหมือนจะช้าลง ผักสดๆเช่น มะระหวาน ยอดฟักแม้ว ผักกาด ปลอดสารพิษ มีให้รับประทาน ผู้คนที่ดอยมูเซอมีหลายเผ่าเช่น ลีซอ มูเซอดำ มูเซอแดง แต่ละชนเผ่าต่างก็ใช้ภาษาของตน ฟังและพูดภาษาของกันและกันไม่ได้ เด็ก ๆ เยาวชนได้เรียนหนังสือ ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาสื่อสารถึงกัน ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขไม่ทะเลาะวิวาทไม่แบ่งสีเสื้อ สีแดง สีเหลือง ต่างเผ่าเป็นเพื่อนกันได้ ภาพที่เห็นนี้(ถ่ายหน้าร้านขายของตลาดชาวเขาดอยมูเซอ)ซ้ายมือเป็นมูเซอ ขวามือเป็นสีซอเป็นเพื่อนกันเรียนจบมอต้นแล้วละ

วันอังคาร, มีนาคม 10, 2552

เกลียวคลื่นกับโขดหินที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า

“อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ”ฟังชื่ออุทยานแล้วมีความรู้สึกว่าคงต้องลงทะเลไปเกาะไกล ๆแน่ แต่ความเป็นจริงแล้วที่ตั้งอุทยานอยู่ชายฝั่ง เป็นหาดมีแหลมเล็ก ๆ ยื่นลงไปในทะเลบริเวณหาดแม่รำพึง อำเภอเมือง จังหวัดระยองนี่เอง
ลักษณะเด่นของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าคือมีธรรมชาติทั้งทะเลและป่าไม้บนภูเขาอยู่ด้วยกัน ถึงจะเป็นป่าขนาดจิ๋วแต่ก็ทำให้เราสามารถศึกษาชีวิตของนกป่าเช่น นกขี้เถ้าใหญ่ นกแซงแซวสีเทา นกตีทองได้ ส่วนชายหาดทรายและเกาะแก่งหินมีสิ่งมีชีวิตหลากหลาย ตัวอย่างเช่น ปะการังเห็ดหูหนู ปลาดาว ปลิงทะเล ปู กุ้ง หอย ปลา และอื่นๆ
สรุปว่า หากต้องการเรียนรู้โดยกลุ่มผู้เรียนมีขนาดไม่มากนัก อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดเหมาะสมดีนะ

วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 27, 2552

โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ความฝันอันยิ่งใหญ่เรียกร้องวิถีไทยกลับคืน


โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ (สอนกระบือไถนา)
ความฝันอันยิ่งใหญ่เรียกร้องวิถีไทย วิถีบรรพบุรุษให้กลับคืน
______________________

เช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 อากาศที่จังหวัดสระแก้วสดใส ยังไม่เริ่มร้อนซึ่งโดยปกติแล้วอุณหภูมิอาจสูงถึง 38 องศาเซลเซียสในบางวัน ณ บริเวณโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ มีกลุ่มคนจำนวนมากเร่งงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยมีหมายกำหนดการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเปิดโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ในวันอังคารที่ 10 มีนาคม 2552 นี้
ที่โรงเรียนสอนกระบือให้ไถนา มีอะไรน่าสนใจและเป็นองค์ความรู้บ้าง คงเริ่มลำดับจากการสัมภาษณ์พูดคุยกับ นายบัญชาทรัพย์ ปรีวิลัย ชาวสกลนคร ซึ่งเป็นครูสอนกระบือให้ไถนาที่อยู่ที่นี่ กล่าวว่า “ปัจจุบันมีกระบือทั้งหมด 26 ตัว เป็นกระบือที่มีผู้นำมาถวายแด่สมเด็จพระเทพฯ จำนวน 14 ตัว เมื่อปีที่แล้ว กระบือทั้ง 14 ตัวนั้นมาจากจังหวัดขอนแก่น สุรินทร์ นครพนม สกลนครและลพบุรี โดยมีตัวผู้ที่คุมฝูงเป็นกระบือจากจังหวัดขอนแก่น ผ่านมาหนึ่งปี ออกลูกอีก 12 ตัว มีทั้งตัวผู้ ตัวเมีย กระบือทั้งหมดจะไม่ดุ สอนให้คุ้นกับคนได้ กระบือนั้นจะเลี้ยงให้เป็นอย่างไรก็ได้ เขาน่ารัก” จากนั้นบัญชาทรัพย์ก็ไปจูงลูกกระบือตัวผู้มาตัวหนึ่งเดินมาหา และบอกลูกกระบือว่า “ทำความเคารพซิลูก” ลูกกระบือคุกเข่าหน้าลงทั้งคู่น่ารักมาก สิ่งที่ได้พูดคุยกับ บัญชาทรัพย์ แม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ ก็รู้สึกประทับใจมาก
ได้เดินดูไปโดยรอบบริเวณโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ พบว่าแต่ละสิ่งที่ปรากฏ ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ความรู้ทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น การปลูกแฝกเพื่อยึดเกาะป้องกันการพังทลายของดินริมสระน้ำ การใช้กังหันลมเป็นระหัดวิดน้ำ การทำบ้านด้วยดินเหนียว การมุงหญ้าคาโดยไม่ต้องทำเป็นตับ การทดลองพันธุ์ข้าวทั้งของสุพรรณบุรี ปทุมธานี สกลนคร การปลูกพืชอาหารสัตว์ การปลูกพืชปุ๋ยหมัก การทำแก๊สชีวภาพเพื่อการหุงต้มและผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับสูบน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมายทุกเรื่องและทุกองค์ความรู้ที่ปรากฏ ณ โรงเรียนกาสรกสิวิทย์เป็นสิ่งที่หายไปจากวิถีไทย วิธีบรรพบุรุษมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่แห่งนี้แหละ จะเป็นต้นแบบเพื่อเรียกร้องวิถีไทยวิถีบรรพบุรุษให้กลับคืน

วันพุธ, กุมภาพันธ์ 18, 2552

Milestone



ไมล์สโตน (Milestone) เป็นภาษาฝรั่งถ้าภาษาไทยหมายถึงหลักกิโลเมตรนั่นแหละ วันนี้ขอเขียนถึงหลักกิโลเมตรเพื่อเป็นอนุสรณ์ของชีวิตซักหน่อย ช่วงเวลาหนึ่งของการ รับราชการได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว รับผิดชอบพื้นที่ 9 จังหวัดในภาคตะวันออก ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สถานศึกษาแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 33 ถนนสุวรรณศร ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงคือกรุงเทพมหานครระยะทาง 255 กิโลเมตร ตั้งห่างจากอำเภอวัฒนานคร 22 กิโลเมตรและห่างจากชายแดนประเทศกัมพูชาที่อำเภออรัญประเทศ 44 กิโลเมตร หลักกิโลเมตรหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้วจึงมีความพิเศษคือเป็นหลักกิโลเมตรที่มี ตัวเลข 22 , 33 , 44 , 55 อยู่ในหลักเดียวกัน
Milestone หลักนี้นอกจากจะมีความหมายเป็นหลักกิโลเมตรในการบอกระยะทางตามถนนแล้ว ยังเป็นหลักที่บอกเหตุการณ์สำคัญในชีวิตช่วงหนึ่งของเราอีกด้วยนะ

วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 17, 2552

ชะมวงกวางกับหม้อข้าวหม้อแกงลิง



เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ มีโอกาสไปศึกษาต้นไม้ พรรณไม้ที่สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติแม้จะเป็นช่วงปลายฤดูหนาวใบไม้ร่วงแต่ที่ทุ่งค่ายยังมีเสน่ห์ของต้นไม้ใหญ่ ๆ เช่น เคี่ยม มังตาน ไม้เล็กเช่น ระกำ ลุมพี และชะมวงกวาง รวมไปถึง หม้อข้าวหม้อแกงลิง ซึ่งชอบพื้นที่ป่าพรุ จากต้นไม้ที่พบ แสดงว่าทุ่งค่ายเป็นพื้นที่ป่า 2 ประเภทคือ ป่าดิบ และป่าพรุอยู่ด้วยกัน เดินศึกษาธรรมชาติไปถึงบริเวณหอคอยเหล็กสูง ๆ เชื่อมต่อกันด้วยสริงมีทางเดินเป็นแผ่นเหล็ก ความสูงตั้งแต่ 10-30 เมตร เดินขึ้นไปศึกษาทีละชั้น สวยงามมากความรู้สึกเมื่อเราได้เดินอยู่บนยอดไม้มุมมองเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเป็นมุมมองที่ฝรั่งเรียก “Bird Eye View” จินตนาการและความคิดก็เปลี่ยนไปด้วย
เมื่อกลับออกมาบริเวณทางเข้าสวนพฤกษศาสตร์ได้พบผู้รู้ท่านหนึ่งชื่อ คุณมาโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ ท่านอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างต้นไม้ 2 ชนิด คือ ต้นชะมวงกวาง และต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ความว่า “ต้นชะมวงกวางเป็นไม้ลำต้นตรง ปลวกไม่กิน ชาวบ้านชอบตัดไปทำรั้ว ทำกรงไก่ กรงเป็ด ชะมวงกวางมันตายกับความดีของมันนั่นแหละ ผมพยายามศึกษาเพื่อขยายพันธุ์ กลับพบความสัมพันธ์ระหว่างชะมวงกวางกับต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง มีความสัมพันธ์อย่างมาก ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงอิงแอบชะมวงกวางและเจริญเติบโตได้ดีหากขาดชะมวงกวางหม้อข้าวหม้อแกงลิงจะเฉาไม่เติบโต ผมกำลังศึกษาลึกๆ อีกต่อไปครับ”
สรุปว่า ยังมีคนดีดี... ที่ใส่ใจศึกษาถึงความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกเรา เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปเปิดโอกาสให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นดำรงเผ่าพันธุ์เป็นเพื่อนร่วมโลกอยู่กับมนุษย์ตลอดไป

วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 16, 2552

ฤๅกาเหว่าจะสูญพันธุ์

หากใครก็ตามถูกเรียกว่า “ผู้สูงอายุ” จะคุ้นเคยกับเพลงของนักร้องยุคเก่า ที่ชื่อ “ทูล ทองใจ” เนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “เสียงดุเหว่าแว่วมาเหมือนเตือนให้สองเราผวาจากกัน ..”คนโบราณเรียกนกกาเหว่าว่า “ดุเหว่า” เป็นเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาได้เฝ้ามองพฤติกรรมของนกต่าง ๆ ในสวนซึ่งมีเนื้อที่กว่า 13 ไร่ เช่น นกเอี้ยงสาริกา นกกิ้งโครง นกกาเหว่า ว่าเขาอยู่และสัมพันธ์กันอย่างไร ประเด็นที่พบและน่าสนใจคือ ในหนึ่งปี มีลูกนกกาเหว่าเกิดในสวน 2 ชุด จำนวน 4 ตัว ชุดแรกเป็นตัวผู้ 1 ตัว (สีดำ) ตัวเมีย 1 ตัว (สีน้ำตาลดำ) และชุดที่ 2 ก็เหมือนชุดแรก พฤติกรรมของพ่อแม่กาเหว่าในฤดูผสมพันธุ์มีตัวผู้หลายตัวบินไล่ตามตัวเมียเพื่อผสมพันธุ์ ตัวเมียบินโฉบไปมา จากนั้นตัวเมียมักเกาะซุ่มซ่อนอยู่ตามต้นไม้ใกล้บริเวณ ที่นกเอี้ยงสาริกา หรือนกกิ้งโครงทำรังอยู่ พฤติกรรมต่อมาเห็นไม่ชัดเข้าใจว่าคงไปแอบไข่ในรังนกทั้ง 2 ชนิดที่กล่าวมา ภาพปรากฏอีกระยะหนึ่ง คือนกกิ้งโครงเลี้ยงลูกกาเหว่าตัวโต สอนให้บิน โดยมีพ่อและแม่ที่แท้จริงของกาเหว่ามาอยู่ใกล้ ๆนกกิ้งโครงพยายามเลี้ยงลูกคิดว่าเป็นลูกตน สุดท้ายพ่อแม่กาเหว่าก็พาลูกกาเหว่าทั้งสองชุด จากไป ธรรมชาติสร้างความประหลาดความฉงน ให้มนุษย์เสมอมีคำถามมากมาย เกี่ยวกับกาเหว่า เช่น
· ทำไมแม่กาเหว่าไม่ฟักไข่เองอะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัย
· หากขาดนกอื่นฟักไข่ให้กาเหว่าจะสูญพันธุ์หรือไม่ หรือกาเหว่าจะปรับพฤติกรรมไปอย่างไร
· ในความเป็นจริงของธรรมชาติแล้วทุกอย่างจะเกาะเกี่ยวสัมพันธ์เชื่อมโยงกันหรือไม่
ช่างมันเถอะฟังเพลงกล่อมลูกดีกว่านะ “เจ้ากาเหว่าเอย... ไข่ไว้ในรังให้แม่กาฟัก... แม่กาก็หลงรักคิดว่าลูกในอุทร... คาบเอาข้าวมาเผื่อคาบเอาเหยื่อมาป้อน...ถนอมไว้ในรังนอนป้อนเหยื่อให้ลูกกิน…..”

วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 06, 2552

ช้างเผือกในฝัน



นาฬิกาบอกเวลาตีสามสามสิบสามนาที เสียงกาเหว่าร้องดังมาแต่ไกล ตื่นมาพร้อมความฝันที่เป็นสุข...เป็นความฝันที่กลัวๆกล้าๆ เพราะฝันว่าได้มีโอกาสร่วมดูแลช้างเผือกของในหลวงช้างหนึ่ง ยังเป็นช้างเด็กมีความซุกซน ทำอะไรได้บ้างแต่ยังไม่เก่ง ขี้เล่น สนุกกับการทำกิจกรรมที่ผู้ดูแลให้ทำ ความที่เราเป็นคนกลัวช้างมาแต่เด็ก ในฝันก็เหมือนจริงคือกลัวๆกล้าๆ เมื่อตื่นขึ้นรู้สึกสนุกกับฝันดี... เพราะอยู่กับช้าง อยู่กับป่า อยู่กับน้ำตก ที่สวยงามด้วย
เช้าวันนี้ต้องเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์เดินทางไปราชการ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นวิทยากรให้ความรู้กับครู กศน.ของจังหวัดฉะเชิงเทรา เรื่อง เทคนิคการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของชุมชน และร่วมทีมวิทยากรนักสืบสายน้ำให้ความรู้กับนักศึกษา กศน. อบต. ในกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว….
เรื่องทั้งหมด ขอสรุปว่า คงคิดถึงงานมาก ความฝันและความจริงเกิดบูรณาการกัน ตัวเองจะต้องเดินทางเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาอ่างฤาไน ซึ่งมีช้างจำนวนมาก.... เลยเก็บมาฝันเป็นเรื่องราวไปถึงช้างเผือกแน่ะ... อันที่จริงแล้ว “แม้ฝันก็ถือเป็นฝันแบบมีชั้นเชิง เพราะเป็นฝันที่มีจินตนาการใช่ไหม”

วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 05, 2552

Designer


ดีไซน์เนอร์ (Designer) หากแปลเป็นภาษาไทย หมายถึง นักออกแบบ นักคิดค้น นักวางแผน หรือนักสร้างสรรค์ทำนองนั้น อาชีพทุกอาชีพจำเป็นต้องมี Designer จึงทำให้อาชีพนั้น ๆ มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่นอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า อาชีพตัดผม ล้วนแล้วแต่มี Designer คอยสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ให้วงการเสมอ ๆ
อาชีพนักการศึกษาเป็นอาชีพหนึ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีนักคิดค้น นักออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งภาษาทางการศึกษาเรียกว่า “นวัตกรรมการเรียนรู้ ” เหตุด้วยโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีองค์ความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงนั้น วงการศึกษาจึงต้องประยุกต์ บูรณาการปรับแต่งวิธีการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกลมกลืน ที่สำคัญการออกแบบต้องเข้าใจง่าย นำไปใช้ให้เกิดผลได้จริง เรียนรู้ได้จริงเป็นรูปธรรม ความยากง่ายให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายการเรียนรู้ก็จะเป็นธรรมชาติ ทุกคนมีความสุขกับการเรียนรู้นั้น
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ได้ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนเป็นรูปแบบง่าย ๆ สอดคล้องกับบริบทชุมชน เช่น กิจกรรมนักสืบสายน้ำ เน้นการดูแลสายน้ำ (สายเลือด สายชีวิต) โดยการศึกษาจากตัวชี้วัดความสะอาดจากชีวมวลที่มีอยู่ในน้ำได้แก่ หนอนน้ำ หอยเจดีย์ เป็นต้น หรือกิจกรรมนักสืบชายหาดเน้นการดูแลชายหาดริมทะเลโดยดูจากซากสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏอยู่บนชายหาดในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุด เป็นต้น
การออกแบบการเรียนรู้หรือการเป็น Designer จึงจำเป็นที่ควรมีอยู่ในหัวใจนักการศึกษาทุกคน เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของชาติให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

วันศุกร์, มกราคม 30, 2552

ใต้เงาพระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล


ปีนี้เป็นปีฉลู พุทธศักราชสองพันห้าร้อยห้าสิบสอง นับเป็นปีที่ปิติสุขปีหนึ่ง เหตุด้วยมีโอกาสเดินทางไปราชการภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ และห้วงเวลาสั้นๆได้เดินทางขึ้นไปบนยอดดอย อินทนนท์ที่สูงสุดในสยาม ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,142 เมตร เวลาประมาณสิบหกนาฬิกาสามสิบนาที ของวันที่สิบสี่ เดือนมกราคม อุณหภูมิบนยอดดอยอินทนนท์ บอก 4 องศาเซลเซียส อากาศหนาวเย็น ฟ้าสดใสมาก เสียงนกหลากหลายชนิด ร้องดังสอดประสานกัน ดูสงบ ร่มรื่น เยือกเย็น ออกเดินช้าๆขึ้นไปบนพระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล ซึ่งเป็นพระมหาธาตุเจดีย์ที่กองทัพอากาศไทย สร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสที่ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ และทรงพระราชทานนามว่า “ พระมหาเจดีย์นภเมทนีดล” มีความหมายว่า “เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน” เมื่อก้าวเข้าไปในพระมหาธาตุเจดีย์ ความเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เป็นความปิติอย่างบอกไม่ถูก กราบพระมหาเจดีย์เสร็จเดินไปรอบๆ เห็นเงาพระมหาธาตุเจดีย์ทอดทับไปบนหมู่ต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่ ให้เกิดสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างถ้วนทั่ว พนมมือตั้งจิตอธิษฐานหากมีบุญวาสนาขอให้เกิดมาเป็นคนไทย เพื่อเป็นข้าผู้รับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดไป

วันพฤหัสบดี, มกราคม 29, 2552

ผลกาแฟ ต้นกาแฟ ที่ดอยปุยจังหวัดเชียงใหม่


มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือระบุว่าเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกดื่มกันมากที่สุดคือ “กาแฟ” ลองมาวิเคราะห์ดูว่าทำไมประชากรทั่วโลกจึงชอบดื่มกาแฟ ถ้าเราสังเกตคนดื่มกาแฟ จะพบลักษณะการดื่มดังต่อไปนี้ บางคนชอบดื่มกาแฟแก้วโต ๆ ไม่ใส่ครีมไม่ใส่น้ำตาล บางคนชอบดื่มกาแฟใส่น้ำตาลอย่างเดียว บางคนชอบใส่ครีมเยอะ ๆ น้ำตาลเยอะ ๆ บางคนชอบดื่มกาแฟใส่นม บางคนก็ชอบดื่มกาแฟใส่โสม คนทั่วโลกทุกคนที่ดื่มกาแฟสามารถปรับรสชาติกาแฟตามความต้องการของตน อาจเพราะเหตุนี้แหละจึงทำให้มีคนดื่มเครื่องดื่มกาแฟกันมาก และคนทั่วโลกยังชอบดื่มกาแฟ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์อาราบิก้า (ARABICA) และพันธุ์โรบัสต้า (ROBUSTA) เป็นส่วนใหญ่อีกด้วย
ที่ดอยปุยจังหวัดเชียงใหม่ ชาวเขาปลูกกาแฟไว้ตามเชิงเขาลดหลั่นกันดูสวยงาม เมื่อเข้าไปชมใกล้ ๆ จะเห็นความงามของผลกาแฟซึ่งสุกไม่พร้อมกันเริ่มจากสีเขียว สีเหลืองไปเป็นสีแดง และแดงเข้มอมม่วง ในไร่กาแฟสุกมีนกปรอดหลากหลายชนิดส่งเสียงร้องบินไป บินมา เต็มไปหมด เมื่อถามชาวเขาว่ากาแฟที่ปลูกที่ดอยปุยเป็นพันธุ์อะไร เขาบอกว่าพันธุ์ อาราบิก้า พันธุ์นี้จะมีกลิ่นหอมและชอบเจริญเติบโตในพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลจึงปลูกได้ดีทางภาคเหนือ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ส่วนอีกพันธุ์หนึ่งคือ พันธุ์ โรบัสต้า มีความเข้มข้นของกาแฟสูงชอบเจริญเติบโตในพื้นที่ฝนชุก จึงปลูกในแถบจังหวัด สุราษฎร์ธานี ชุมพร เป็นต้น สรุปว่า คอกาแฟไม่ว่าจะปรุงแต่งด้วยส่วนผสมอย่างไร กาแฟต้องขอเป็น อาราบิก้าและโรบัสต้าผสมกัน เพื่อให้ได้ความหอมละมุนและรสชาติเข้มข้นคละเคล้ากันเป็นสุดยอดกาแฟสุนทรีย์ของคนทั่วโลก

นกตีทองและนกโพระดกกับลูกไทรสุกที่ศูนย์วิทย์สระแก้ว


“ไทร” มีลักษณะพิเศษเฉพาะต้นคือไทรแต่ละต้นผลสุกไม่พร้อมกัน ด้วยเหตุนี้ไทรจึงได้ชื่อว่า “นักบุญแห่งป่า” คือเป็นแหล่งอาหารของสัตว์หลายชนิด เช่น นกต่าง ๆ กระรอก ลิง ชะมด รวมถึง เก้ง กวาง ที่เก็บกินลูกไทรหล่นบนพื้นดิน สัตว์จะรู้ว่าไทร ต้นไหนสุกเมื่อใด เขาจึงกำหนดแหล่งอาหารได้ตลอดปี
ในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว มีต้นไทรต้นหนึ่งเริ่มสุกเมื่อวันกองทัพไทยคือ วันที่ 25 มกราคม และจะสุกต่อไปจนกว่าจะหมดต้น แม้ว่าไทรต้นนี้อยู่ในชุมชน ไทรทั้งต้นยังเต็มไปด้วยนกนา ๆ พันธุ์ เช่น นกตีทอง นกโพระดก นกปรอดสวน นกปรอดโอ่ง นกกาเหว่า นกจาบคาก็มาร่วมด้วย (ที่จริงนกจาบคากินแมลงเป็นอาหาร)
การมีต้นไม้ไว้ในบ้าน ในสวน ในที่ทำงาน นอกจากประโยชน์โดยตรงที่ได้รับจากความร่มรื่น และอากาศที่บริสุทธิ์ ที่เกิดจากการสงเคราะห์แสงแล้ว ประโยชน์ทางอ้อม อาจเป็นเช่นไทรในศูนย์วิทย์ฯ ต้นนี้ คือเป็นแหล่งอาหารให้สัตว์ยังชีวิตไว้เพื่อเป็นเพื่อนร่วมโลกกับเราตลอดไป

วันอังคาร, มกราคม 06, 2552

"แย้"ที่ห้วยขาแข้ง


แย้ เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ตัวขนาดเท่ากิ้งก่า ต่างจากกิ้งก่าที่แย้ชอบอยู่อาศัยและหากินบนพื้นดิน ที่พักพิงของแย้ เรียกว่า “รูแย้” แย้ขุดรูและทำรูหนีภัยไว้ด้วย ในอดีต 20-30 ปี ที่ผ่านมา ในภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคตะวันตก เช่น กาญจนบุรี อุทัยธานี เกมส์การล่าและผู้ถูกล่า ระหว่างคนกับแย้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แย้จึงเป็นสัตว์ระวังภัยสูง วิ่งเร็วมาก เมื่อคนไล่แย้ลงรู ถ้าหารูหนีภัยไม่พบ แย้ก็จะหนีไปได้อีก
ปัจจุบัน แย้ เหลือน้อยจึงมีการอนุรักษ์และการนำมาเลี้ยงเป็นฟาร์มบ้าง ทำให้ความปราดเปรียวของแย้ รวมถึงการระวังภัยเปลี่ยนไป หากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จะพบเห็นแย้รับแขก เดินอุ้ยอ้ายหน้าที่ทำการ ตัวโตอ้วน อวดโฉมเป็นดาราให้ถ่ายภาพ หล่อ ๆ ทุกวัน สรุปว่า “โลกแห่งการท่องเที่ยว มีอิทธิพลต่อสัตว์เลื้อยคลาน เช่น แย้ด้วยเหมือนกันแฮะ"

วันจันทร์, มกราคม 05, 2552

สักกระหม่อม


ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆเกือบทั่วประเทศที่มีชาวต่างชาติมาเยี่ยมเยือนเรามักพบเห็นธุรกิจชนิดหนึ่งที่ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวอย่างดีคือธุรกิจการสักตามร่างกาย และที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็เป็นเช่นนั้น ภาพที่เห็นชาวต่างชาตินั่งให้สักตามหลังบ้าง โคนแขนบ้าง ต้นคอบ้าง เป็นภาพคุ้นเคย การสักมีรูปแบบและสีสันที่สวยงาม การสักคงเจ็บเพราะเห็นมีเลือดขึ้นเป็นจุดๆแดงเต็มรูปที่สัก ผู้สักมีความอดทนไม่มีใครบ่นเลย อาจเป็นเพราะมองเห็นผลลัพธ์กับภาพที่สวยงามที่จะปรากฏบนเรือนร่างตนจึงทนเอา...ความหมายของการสักในปัจจุบันต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง ปัจจุบันสักเพื่อความสวยงาม ลงสีสันอาจเป็น แดง ดำ น้ำเงิน เขียวหรือสีอื่น ในอดีตการสักใช้สีดำอมเขียวสักเป็น อักขระ ยันต์หรือรูปสัตว์เช่น เสือ พญานาค เพื่อแสดงถึงอำนาจและการอยู่ยงคงกระพัน(ฟัน แทง ไม่เข้า)และการสักอีกแบบหนึ่งไม่มีสีสันเรียกว่า การสักน้ำมันสักด้วยจุดประสงค์เดียวกันคืออยู่ยงคงกระพัน .........ในภาคเหนือของไทย(อดีต)มีการสักเล็กๆที่พ่อแม่พาลูกชายไปให้เจ้าพ่อซึ่งเป็นคนทรงสักน้ำมันให้บนกระหม่อมเพื่อต้องการให้ลูกเรียนเก่งเมื่อเติบใหญ่จะได้รับราชการเพื่อรับใช้แผ่นดิน....เรายังจำได้เมื่ออายุ ๙-๑๐ ขวบแม่พาไปสักกระหม่อม..ด้วยแรงปรารถนาของแม่จึงทำให้เรารับใช้แผ่นดินมาถึงทุกวันนี้