วันพุธ, มกราคม 30, 2556

วัดพระธาตุม่อนทรายนอน








ตอนเรียนหนังสืออยู่ชั้นประถมสาม อายุน่าจะประมาณเก้าหรือสิบขวบ ยังจำภาพหนึ่งและบันทึกเรื่องราวครั้งนั้นไว้ในสมองตราบถึงวันนี้  ยายบอกว่ายายจะพาไปวัด วัดนี้อยู่บนภูเขาไกลจากบ้านต้องเดินไปหลายชั่วโมง คือ วัดดอย รู้สึกดีใจมาก อยากไป ไม่เคยไป เวลาประมาณตีสามยายพาเดิน มีชาวบ้านเดินไปตามถนนเห็นแสงตะเกียงโมงโมง สมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้า ทุกคนต่างมุ่งหน้าสู่วัดดอย และต้องไปให้ถึงก่อนสว่าง ชื่อวัดดอย แปลว่าวัดนั้นอยู่บนภูเขา ที่เชิงเขามีบ่อน้ำที่มีน้ำไหลรินออกมาจากภูเขาไม่เคยหยุด " ชั่วนาตาปี " มีรูปปั้นเนื้อทรายนอนอยู่บนทางที่น้ำไหลออกมา
เมื่อทุกคนมาถึงต้องนำน้ำที่บ่อเชิงเขาล้างหน้าตบศีรษะก่อนเดินขึ้นภูเขาไปวัดดอย ขึ้นไปถึงวิหารซึ่งเปิดโล่งทั้งสามด้าน มีพระอาจารย์ท่านนั่งอยู่ด้านหน้า แถวหน้ามีคนแก่ผู้ชายนั่ง จากนั้นเป็นคนแก่ผู้หญิง เด็กๆอยู่โคนเสาด้านหลังตัวผู้เขียนนั่งโคนเสาหลังสุด ทุกคนนั่งหลับตาเงียบฟังพระอาจารย์สอนให้ทำสมาธิ....นั่นเป็นภาพแห่งความทรงจำ การนั่งสมาธิครั้งแรกที่วัดดอย หรือ อีกชื่อหนึ่งคือ วัดพระธาตุม่อนทรายนอน อำเภองาว จังหวัดลำปาง

วันอังคาร, มกราคม 29, 2556

วัดปงคก







วัดปงคกเป็นวัดเล็กๆประจำตำบลหลวงใต้ เจ้าอาวาสมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบล  ที่บอกว่าวัดเล็กเพราะบริเวณวัดมีพื้นที่จำกัดด้วยตั้งอยู่บนคุ้งแม่น้ำงาว ในอดีตแม่น้ำงาวฤดูน้ำหลากน้ำไหลเชี่ยว พัดพาทั้งซุง ต้นไม้ เศษไม้ ครั้งหนึ่งเคยพัดพาครกไม้ ครกตำข้าวมาหมุนวนอยู่ที่คุ้งน้ำ จากนั้นครกไม้ใบใหญ่จมหายไปอย่างไร้ร่องรอย จึงเป็นที่มาของชื่อวัด " ปงคก " ปง แปลว่า ที่ลุ่ม คก หมายถึง ครก ภาษาเหนือไม่มีคำควบกล้ำ
ด้วยความจำกัดของพื้นที่ วัดจึงมีเพียง วิหาร ศาลาการเปรียญ โบสถ์ และมีอาคารอื่นอีกหลังสองหลัง แต่สิ่งสุดยอดไม่ใช่ขนาดกลับเป็นความสวยงาม สิ่งปลูกสร้างทุกหลังล้วนแล้วแต่ประณีต ละเอียด มีศิลปแห่งล้านนาทุกตารางนิ้ว  ทำให้วัดปงคกจัดเป็นวัดที่สวยงามมากวัดหนึ่งของจังหวัดลำปาง

ตลาดมืด






ทุกครั้งที่ผู้เขียนมีโอกาสกลับไปบ้านที่จังหวัดลำปาง สิ่งที่ทำไม่เคยขาดคือตื่นแต่เช้าประมาณตีห้า ล้างหน้าแต่งตัวสวมหมวกไอ้โม่งเสื้อกันหนาว เดินข้ามแม่น้ำงาวทางสะพานไม้ขัดแตะไปตลาดสดตอนเช้า คนเหนือเรียกตลาดเช้าว่า " กาดมั่ว " กาดมั่วเริ่มซื้อขายก่อนสว่างไปจนถึงประมาณแปดโมงเช้า จากนั้นทั้งคนซื้อและคนขายต่างเสร็จภารกิจของตน
หากถามว่าทำไหมชอบไปตลาดเช้า คำตอบคือ เป็นการทบทวนความเป็นไปและการเปลี่ยนแปลงของชุมชน ในช่วงเวลาสั้นๆเรามองเห็น สินค้าเปลี่ยนไปอย่างไร ราคาเปลี่ยนไปอย่างไร ภาษาเปลี่ยนไปอย่างไร สุขภาพผู้คนเปลี่ยนไปอย่างไร อื่นๆอีก
เช้าวันนี้หกโมงแล้วยังไม่สว่าง แม่ค้าต่างจุดเทียนไขตั้งไว้บนกระบุงที่หาบสินค้ามาขาย จึงถามแม่ค้าว่าเกิดอะไรขึ้นจึงจุดเทียนเกือบทั่วตลาด แม่ค้าตอบว่า " สองสามวันมานี่ กาดมั่ว บ้านเฮาเป็น กาดมืด ไฟฟ้ามันดับ " ได้ยินแม่ค้าพูดถึงตลาดมืดคือตลาดที่ไม่มีแสงสว่างหรือแสงสว่างไปไม่ถึง เลยแวะไปกินกาแฟโบราณ ไข่ลวกสองฟอง น้ำชาร้อนๆ รอให้กาดมืดมันเปลี่ยนเป็นกาดมั่วก่อน จะได้ซื้อของไม่ผิดกฎหมาย ก่อนออกจากร้านแม่ค้าคิดสตางค์ยี่สิบห้าบาท กาแฟ ไข่ลวกแพงขึ้นเล็กน้อยปีนี้