วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 15, 2554

เห็นเหมือนกัน คิดไม่เหมือนกัน




เดือนธันวาคม ปีนี้ (2554) อากาศค่อนข้างหนาว  ที่อุทยานแห่งชาติปางสีดาก็เช่นกัน  ยิ่งเป็นช่วงบ่ายอากาศหนาวป่าสงบใบไม้ไม่ไหวติงเลย  รถคณะเราสองคันขับช้าๆ ขึ้นไปบนจุดชมวิวของอุทยานแห่งชาติปางสีดาระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร  สัตว์ที่พบเห็นระหว่างทางเริ่มจาก ไก่ป่าเพศผู้เป็นชนิดพันธุ์ตุ้มหูขาว  นกกะปูด  นกเขาเขียว  นกแซงแซวสีเทา  กะเล็น (กระแตตัวเล็ก) ในหนัง “แอนนิเมชั่น” เรียกตัว “ชิบมั้ง” วิ่งผ่านถนนน่ารักมาก  ทุกคนที่อยู่ในรถคันแรก ต่างพูดคุยถึงสัตว์ป่าอย่างสนุกสนาน  ทั้งจริงบ้างพูดเล่นบ้าง  ช่วงหนึ่งไก่ป่าเพศผู้วิ่งผ่านหน้ารถกระชั้นชิด  ผู้เขียนเบรกรถ ไก่ป่าวิ่งกึ่งบินผ่านไปได้  จึงอุทานว่า “ดีนะที่เบรกทันเลยรอดไปได้”  คณะศึกษาธรรมชาติอยู่ในช่วงอารมณ์สนุก  อุทานบ้าง “ พี่ไม่น่าเบรกนะ  ไม่งั้นเราคงได้กินไก่ป่าเป็นอาหารมื้อเย็นแล้ว ”   เอาแล้วไงกัน เหตุการณ์เดียวกัน  เห็นเหมือนกัน คิดไม่เหมือนกันเสียได้  พวกเองนี่...เสียงหัวเราะดังขึ้นทั้งรถ
            เมื่อขึ้นไปถึงจุดชมวิว รถคันที่สองตามมา  หน้าตาตื่น  พูดเสียงเครือ  เจองูจงอางอยู่ข้างทาง ห่างรถแค่สองเมตรตัวดำมะเมื่อม  ขนาดแขนได้  ยาวต้อง 2 เมตรกว่า น่ากลัวมากๆ (ดูจากรูปนะบันทึกภาพโดยภัทรกิจ ไชยถา)  โชคดีที่รถคันแรกไม่เจอจงอาง นึกแล้วเสียว  

วันพุธ, ธันวาคม 07, 2554

เส้นทางแสนยาวไกล เริ่มที่ชายแดนจบที่ชายแดน





            วันที่ตัดสินใจ เป็นข้าราชการรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ในวันนั้น (1 กันยายน 2519)  เป็นการเริ่มต้นด้วย อุดมการณ์  เป้าหมาย ที่ชัดเจนว่า จะเป็นครูด้วยจิตวิญญาณ  ด้วยความรัก ให้กับศิษย์ที่ยากลำบาก  ห่างไกล  ขาดแคลนปัจจัยสี่  ที่เด็กไทยพึงมีพึงได้ ชีวิตข้าราชการจึงเริ่มที่อำเภอกาบเชิง  จังหวัดสุรินทร์  จังหวัดชายแดน อาณาเขตติดกับประเทศกัมพูชา  นับแต่นั้นมา  ชีวิตมีทั้งทุกข์  ทั้งสุข  ทั้งผิดหวัง  ทั้งสมหวัง  คละเคล้าเป็นชีวิตที่ปุถุชนพึงพบ  เวลาผ่านจาก วันเป็นเดือน เป็นปี  และหลายปี จากกันยายน 2519 ถึงกันยายน 2555 นับเวลาได้ 36 ปี   แล้ววันนั้นก็มาถึง วันหมดเวลาวันพระอาทิตย์ตกดิน  ที่จังหวัดสระแก้ว   จังหวัดชายแดนประเทศกัมพูชาเหมือนเริ่มต้น  ข้าฯได้รับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ที่ข้าฯรักยิ่งด้วยความสง่างามแล้ว

วันศุกร์, ธันวาคม 02, 2554

โศกนาฏกรรม หลังน้ำลด





            อุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่  น้ำท่วมขังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อยู่เป็นเดือน  หลังน้ำลดบริเวณหน้าอาคารคณะศึกษาศาสตร์ ของมหาวิทยาลัย วันนั้น ( 1 ธันวาคม ) เป็นวันจัดกิจกรรมที่เรียกว่า Big Cleaning Day มีการนัดหมายมารวมกันทำความสะอาดครั้งใหญ่  เพื่อเก็บกวาดขยะและซากต้นไม้ที่ถูกน้ำท่วมตาย  ขณะที่เก็บกวาดบริเวณลานทราย  ซึ่งเป็นที่ก่อสร้างอาคารที่เพิ่งเริ่มก่อสร้าง  พบว่าลานทรายเป็นหลุมคล้ายหลุมอุกกาบาต  สังเกตเกือบทุกหลุมมีซากปลาตัวเล็กตายรวมกัน  ทุกชีวิตคงดิ้นรนจนสุดความสามารถแล้ว  สุดท้ายมันคือโศกนาฏกรรมปลาตายหมู่หลังน้ำลด
สงสัยว่า หลุมทรายมากมายเกิดจากอะไรกันแน่  ขณะที่ถ่ายรูปและยืนวิเคราะห์อยู่นั้น  ได้ยินเสียงสมาชิกทำความสะอาดท่านหนึ่ง พูดขึ้นมาว่า หลุมทั้งหมดเกิดจากปลามีเกล็ดเช่นปลานิล  ปลาไน  ใช้หางและครีบโบกพื้นทรายให้เป็นหลุมเพื่อแสดงอาณาเขตของตน  เมื่อน้ำลดหลุมจึงเป็นที่อยู่ของปลาตัวเล็กที่ไม่สามารถออกไปหาแหล่งน้ำอื่นได้  เป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมตายหมู่หลังน้ำลดนั้นแหละ   น่าสงสารจังเลย