ครูอู๊ดที่บ้านหนองชาด เล่าว่า “บ่ายวันหนึ่งหลังจากทั้งฝนทั้งลมที่พัดแรงผ่านไป กิ่งตันชาดหักลงมากองกับพื้นดิน มองเห็นรังนกและลูกนกปีกลายสก๊อต จำนวน 2 ตัวตกอยู่ ไม่เห็นแม่นกในบริเวณนั้น จึงได้นำลูกนกปีกลายสก๊อตทั้งสองตัวมาเลี้ยงโดยไปซื้ออาหารสำเร็จสำหรับนกขุนทองมาละลายน้ำแล้วป้อนให้ ลูกนกตัวหนึ่งไม่สามารถรอดชีวิตได้เพราะขาสองข้างผิดปกติอาจเป็นเพราะตกมากระแทกกับพื้นก็เป็นได้ อีกตัวหนึ่งรอดจึงเลี้ยงมาเรื่อย ๆ โดยหวังว่าถ้าโตแข็งแรง บินได้จะปล่อยไป ยิ่งเลี้ยงยิ่งน่ารักหัวโตกว่าตัว เลยตั้งชื่อว่า “ไอ้หัวโต” ไอ้หัวโตไม่ยอมบินปีกก็ไม่งอก หางก็ไม่งอก ได้แต่กระโดดไปมา นำออกมาจากกรงได้แต่กระโดดร้อง “แกก...แกก”แม้เวลาผ่านไปปีกว่าแล้ว คืนหนึ่งดึกแล้วไอ้หัวโตร้องเสียงดังลั่นขอความช่วยเหลือ จึงลงไปดูที่กรง ไอ้หัวโตเกือบตายขนกระจาย งูเขียวกำลังจะจัดการถ้าไม่ลงมาช่วยคงต้องเลี้ยงงูเขียวแทนไอ้หัวโตแล้ว”
สรุปว่าไอ้หัวโตปีกลายสก๊อตที่เห็นในภาพปรารถนาจะเป็นนกน้อยในกรงทองของครูอู๊ดจึงไม่ยอมงอกปีกงอกหาง ไม่คิดจะไปไหน อยู่ในกรงครูอู๊ดนี่แหละดีแล้ว
สรุปว่าไอ้หัวโตปีกลายสก๊อตที่เห็นในภาพปรารถนาจะเป็นนกน้อยในกรงทองของครูอู๊ดจึงไม่ยอมงอกปีกงอกหาง ไม่คิดจะไปไหน อยู่ในกรงครูอู๊ดนี่แหละดีแล้ว