บันทึกวิถีวัฒนธรรมและการดำรงอยู่ของไทยพวนอำเภอปากพลี  พ.ศ.2550
จังหวัดนครนายก
ปัญญา  วารปรีดีและคณะ  (2550)
บทคัดย่อ
                                การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิถีวัฒนธรรมและการดำรงอยู่ของไทยพวนอำเภอปากพลี  โดยศึกษาจากการสำรวจ  การสังเกต  การสัมภาษณ์และศึกษาข้อมูลจากเอกสาร
                                ผลการศึกษาพบว่า  คนไทยพวนที่อำเภอปากพลีเดินทางมาด้วยเส้นทางอันยาวไกล  จากดินแดนที่สูง จากระดับน้ำทะเลมากกว่า  1200  เมตร  คือ  เมืองพวนในแขวงเชียงขวาง  สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  เดินทางมาพร้อมเด็ก ผู้หญิง  คนแก่ชรา  ชายฉกรรจ์  พระ  เณร  พระพุทธรูปพร้อมพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมสู่ถิ่นที่อยู่ใหม่คืออำเภอปากพลี  จังหวัดนครนายก  ในความสูงจากระดับน้ำทะเลเพียง  180 เมตร เดินทางด้วยผลแห่งสงคราม หลักฐานที่ยืนยันชัดเจนว่าเดินทางมาเมื่อใดไม่ปรากฏ  ที่ปรากฏคือมีหลักฐานชี้ชัดว่าอยู่มานานไม่น้อยกว่า 180 ปี   ปัจจุบันมีคนไทยพวนที่อาศัยในอำเภอปากพลี  8189 คน  โดยตั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัยอยู่ตลอดสองฝั่งคลองท่าแดง  กระจายอยู่ใน  6  ตำบล  ตำบลเกาะหวายและตำบลหนองแสงมีประชากรไทยพวนหนาแน่นที่สุด  ส่วนตำบลท่าเรือและตำบลเกาะโพธิ์  มีความหนาแน่นรองลงมา  และมีไทยพวนไปอาศัยอยู่บางหมู่บ้านที่ตำบลโคกกรวดและตำบลนาหินลาด    คนไทยพวนใช้ภาษาพวนพูดสื่อสารระหว่างกลุ่มของตน  และมีการก่อตั้งชมรมไทยพวน  มีสภาวัฒนธรรมอำเภอปากพลี  เป็นรูปแบบในการทำงานอย่างเป็นทางการ  คนไทยพวนอำเภอปากพลีมีวิถีวัฒนธรรมที่สัมพันธ์กับจารีตประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบกันมาในสิบสองเดือนและการปฏิบัติตนอยู่ในทำนองคลองธรรมสิบสี่ประการ  ทำให้คนไทยพวนมีความผูกพันกับวัด  กับพระพุทธศาสนาและมีความกตัญญูต่อบรรพบุรุษซึ่งเห็นได้จากการมี “ศาลปู่ตา”  อยู่ในหมู่บ้านทุกหมู่บ้านที่มีไทยพวนอยู่  ส่วนวิถีชีวิตและการดำรงอยู่นั้นเปลี่ยนแปลงไปตามการเป็นไปของชุมชนและสังคม  ปรากฏภาพจิตรกรรมปูนปั้นนูนสูงคือภาพปริศนาธรรมที่ฐานอุโบสถวัดคลองคล้ามีจำนวนทั้งสิ้น  16  ภาพ  มี 4 ภาพ ที่มีคำบรรยายประกอบ  อีก 12 ภาพไม่มีคำบรรยาย  มีจารึกชื่อผู้ปั้นคือ  นายผาลี  เนื่องจากอวน  ปั้นเมื่อปี  พ.ศ.  2471  ด้วยความศรัทธาที่จะให้ภาพปริศนาธรรมเหล่านั้นเป็นธรรมทาน  เมื่อมีผู้มาพบอ่านก็ให้ประสพความสุขไปตลอดชาติและภาพปริศนาธรรมเหล่านี้ได้สื่อถึงนิสัยของคนไทยพวนที่มุ่งมั่นในพระพุทธศาสนาประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม  นอกจากภาพปริศนาธรรมแล้วพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวนวัดฝั่งคลองซึ่งเกิดจากความศรัทธา  ความตั้งใจของพระครูวิริยานุโยค  (สมบัติ  บุญประเสริฐ)  ที่มองเห็นคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมของไทยพวน  อันได้แก่  จารีตประเพณี  วิถีวัฒนธรรมและการดำรงชีวิต  จึงได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวนขึ้น  โดยยึดหลักกระบวนการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน  พระครูวิริยานุโยคใช้แนวทางที่เรียกว่า  “บวร”  ซึ่งหมายถึง  บ้าน  วัด  โรงเรียน  บ้านทำหน้าที่ติดต่อให้ได้มาซึ่งสิ่งของเครื่องใช้ของไทยพวน  วัดคอยรวบรวมสิ่งของจัดเป็นหมวดหมู่  โรงเรียนมายถึงศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอปากพลีและโรงเรียนต่าง ๆ ช่วยจัดทำพิพิธภัณฑ์  การให้บริการพิพิธภัณฑ์ทำต่อเนื่องมานานถึง  9  ปี  โดยมีคณะดำเนินการอย่างมีส่วนร่วม  มีการพัฒนาปรับปรุงไปแล้ว  3  ครั้ง  หลักการพัฒนาปรับปรุง  พระครูวิริยานุโยคได้นำคำติชมในสมุดเยี่ยมพิพิธัณฑ์และข้อเสนอแนะจากผลการวิจัยมาเป็นข้อปรับปรุงพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวนวัดฝั่งคลองมาโดยตลอด
วันจันทร์, สิงหาคม 20, 2550
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
 
