วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 30, 2549
กัลยาณมิตรสร้างรอยยิ้มให้ผู้คน
เมื่อเดือนที่ผ่านมา…ผู้บริหารทางการศึกษานอกโรงเรียนของรัฐ   punjab  ประเทศ  pakistan  มาดูงานจำนวน  9 คน มีตัวแทน unesco และ jica  มาร่วมสังเกตการณ์  สิ่งที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันคือ  เขาเป็นนักบริหารที่มีองค์ความรู้ทางบริหารเยี่ยมเขารู้สึกพอใจที่เรามีระบบการบริหารจัดการแบบ learning  organization และมีการวางแผนที่มาจากความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เรียก  bottom up   เขามีอัตตาสูงไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน(เขาบอกอย่างนั้น)  การยอมรับผู้บริหารสตรีต่ำไม่ชอบให้สตรีเป็นผู้นำ  สนใจที่จะซักถามเชิงสถิติ  ระมัดระวังเรื่องอาหาร  เมื่อได้รับมิตรไมตรีบ่อยๆจึงปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ.........สรุปว่า”ความเป็นกัลยาณมิตรสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนบนโลกนี้ได้” สรุปถูกต้องไหมนี่......
วันศุกร์, พฤศจิกายน 24, 2549
ความพยายามของเม็ดข้าว
ปีที่แล้วเราทำนา 2 ไร่ เป็นนาหว่านไม่ใส่ปุ๋ยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง.....ได้ข้าวปลอดสารพิษจำนวน 60 ถัง      ปีนี้ไถนาเสร็จฝนตกเร็วหว่านข้าวไม่ทัน.....คงไม่ได้ทำนาแล้ว..ฝนตกตลอด  เวลาผ่านไป...ข้าวขึ้นเต็มนากอสวยๆทั้งนั้นเลย...ดีใจเราไม่ได้หว่านข้าว........ข้าวที่ตกหล่นเมื่อปีที่แล้วยังงอกให้เลย  ความพยายามของต้นข้าวน่านับถือ   รวงข้าวก็สวยมีน้ำหนัก.......ปีนี้เกี่ยวรวงข้าวสีทองไปก็คิดไป...ถ้าความดีที่เราทำเหมือนเม็ดข้าวที่ฝังดินอยู่ในใจของลูกศิษย์แล้วงอกเงยในโอกาสต่อไปเราคงมีความสุขนะ
แม่ปลาปักเป้าพ่อภูเขาน้ำแข็ง
คอนโดมิเนียมแถวๆสีลม….....ลูกสาวและลูกชายเขาอยู่อาศัยทำมาหากิน  ลูกสาวทำบริษัทสว่นตัวของน้าๆป้าๆเรียกว่าต้องเอาใจคนทั้งตระกูล...โชคดีนิดหนึ่งตรงที่เขาให้บริหารและตัดสินใจ..อีกส่วนไปช่วยบริหารงานโรงแรมที่เตรียมจะเปิดใหม่...ลูกสาวคนนี้..ฉลาด  คล่องทันคน  ไวทั้งความรู้สึกและการทำงาน   ชีวิตของเขาจะพบปะผู้คนมากมาย...เขาจะพูดเสมอว่า”ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้...ที่ทำไม่ได้เพราะไม่ได้ทำ”......ชีวิตเขาจึงตื่นเต้นเหมือน  “ปลาปักเป้าเดียวพองเดียวหุบ” ตอนพองระวังหนามหน่อยนะ........ส่วนลูกชายใจเย็นทำงานด้านกราฟิกดีไซน์...เป็นพวกอาทตีสอะไรทำนองนั้น.....ช่างคิดช่างจินตนาการ.....ศักยภาพเหมือนภูเขาน้ำแข็ง...โผ่มาให้เห็นเหนือน้ำนิดเดียว..ของจริงอยู่ใต้น้ำ   ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันมาแต่เล็กอยู่ท่ามกลางความแตกต่าง..........แปลกดีนะ....แม่ปลาปักเป้าพ่อภูเขาน้ำแข็ง
วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 23, 2549
คุณตาสอน "ณัฐ"
ณัฐเป็นเด็กชาย อายุ   7-8 ปี พ่อแม่ของณัฐเป็นชาวมอญที่มาแสวงโชคในประเทศไทย  ครอบครัวของณัฐมาเป็นส่วนหนึ่งของประดู่ป่าแคมป์ช่วยดูแลสวนจำนวน   12  ไร่ ตัดหญ้า ปลูกต้นไม้ เกี่ยวข้าว เลี้ยงปลา และอยู่เป็นเพื่อน คุณตา คุณยาย   ณัฐเป็นเด็กฉลาดเข้าโรงเรียนแล้วอยู่ชั้น ป.2  พูดภาษาไทยได้ชัดเจน บวก ลบเลขได้แต่อ่านหนังสือไม่ออก  คุณยายบ่นเสมอว่า”ณัฐไปให้คุณตาสอนหนังสือให้ลูกจะได้อ่านออก”   วันหนึ่ง.........คุณตากวาดขยะหน้าบ้านที่ณัฐอยู่กองเล็กๆ...แต่มีขยะหลายชนิดมากองรวมกัน  คุณตาเรียกณัฐ"ญัฐเอากระดาษและดินสอมาคุณตาจะสอนหนังสือให้”  หนูนับขยะดูว่าแต่ละชนิดมีอย่างละกี่ชิ้นเขียนมาให้คุณตา        ณัฐเขียนไม่ได้ครับ....หนูวาดรูปเป็นไหม...ครับหนูวาดรูปแล้วเขียนจำนวนขยะให้...........เมื่อวาดรูปและเขียนตัวเลขครบ.....ญัฐตื่นเต้น   ที่จริงตื่นเต้นตอนนับขยะแล้ว      คุณตาเขียนภาษาไทยไว้คู่กับภาพวาดของณัฐ  เช่นหลอดดูดนม ที่เช็ดหู ก้นบุหรี่ เป็นต้น     คุณตาบอกให้ณัฐเขียนตาม......สุดท้ายจะมี ภาพ  ภาษาไทยบอกภาพ ตัวเลขบอกจำนวน   คุณตาถามณัฐทิ้งขยะอะไรบ้าง  พ่อกับแม่ทิ้งอะไร  ขยะมีทั้งสิ้นกี่ชิ้น  ญัฐบวกลบถูกต้อง      คุณตาถามขยะกองนี้จะทำอย่างไร.......ถ้าทิ้งไปทุกวันจะเป็อย่างไร..........หลายวันมาแล้วหน้าบ้านณัฐสะอาด......เห็นแม่ลูกช่วยกันเก็บ
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
