วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 04, 2554

ปลูกดอกดาวเรืองให้รายได้งดงาม

















ที่บ้านเจริญผล ตำบลท่าเกวียน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เกษตรกร ใช้พื้นที่ประมาณ 1-2 ไร่ ปลูกดอกดาวเรืองและปลูกพริก สร้างรายได้อย่างงดงาม เวลาประมาณ สิบโมงครึ่งที่แปลงดาวเรืองเพิ่งหยุดสปริงเกอร์ลดน้ำ น้ำที่ใช้ลดดอกไม้มาจากสระที่ขุดเก็บน้ำไว้ เกษตรกรเก็บดอกดาวเรืองบรรจุลงถุงพลาสติก ถุงละประมาณ 100 ดอก แยกขนาดเป็น 3 ไซซ์(SIZE) ดอกเล็กหน่อยเป็นเบอร์หนึ่ง โตอีกหน่อยเป็น บิ๊กไซซ์ ขนาดโตสุดเรียก จัมโบ้ ราคาเบอร์หนึ่งดอกละหกสิบสตางค์ บิ๊กไซซ์แปดสิบสตางค์ จัมโบ้ดอกละหนึ่งบาท ดอกดาวเรืองถูกส่งไปปากคลองตลาด กรุงเทพมหานคร เก็บทุก 2 วัน ทุกคนในครอบครัวมีความสุขจากงานที่ทำที่บ้านและมีรายได้งดงามพอเลี้ยงชีวิตทุกคนในครอบครัว

วันพฤหัสบดี, มกราคม 27, 2554

ความสวยงามของตะแบกป่าปลายเดือนมกราคม






ปลายเดือนมกราคมที่อำภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว มีต้นตะแบกป่าบางสายพันธุ์บานดอก บางสายพันธุ์ทิ้งใบ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหนล้วนแล้วสวยงามทั้งสิ้น....ดูจากภาพที่ถ่ายมาในวันที่ 26 มกราคม วันที่ไปทำข้อตกลงร่วมกัน(MOU)กับอุทยานแห่งชาติตาพระยา

วันพุธ, มกราคม 26, 2554

ถึงคุณ Kazumi คุณ Noriaki MANABE






ครอบครัวของเราทุกคนคิดถึงคุณทั้งสองและลูกสาวลูกชายคุณด้วยนะ...ส่งภาพไปเที่ยว Jim Thompson Farm มาให้ดูครับ

วันจันทร์, มกราคม 24, 2554

ในวันที่โลกสดใส ดอกไม้สดสวย ที่ JIM THOMPSON FARM





เหตุการณ์หนึ่งจะอุบัติขึ้นมาได้ล้วนแล้วแต่ต้องมีหลายสิ่งหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ เช่นเหตุการณ์ “ในวันที่โลกสดใส ดอกไม้สดสวย” อุบัติด้วยองค์ประกอบดังนี้ สถานที่ JIM THOMPSON FARM จังหวัดนครราชสีมา เขาปลูกไม้เมืองหนาวด้วยมีที่ตั้งอยู่ใกล้ดอย ในเดือนมกราคมอากาศหนาวเย็น ดอกไม้หลายชนิดบานดอกสวยสดงดงาม เขาจึงจัดงานให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม ลูก ๆ พอมีเวลา ด้วยเป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ อยากพาพ่อแม่ไปพักผ่อนเที่ยวกิน จึงนัดหมาย วันดอกไม้สวย อากาศดี ไม่เก็บภาพเป็นที่ระลึกดูกะไรอยู่ ลูก ๆ พกกล้องถ่ายรูป 2-3 ตัว เก็บภาพของทุกคน เสียงชัตเตอร์ลั่นเป็นระยะ ๆ ระคน เสียงคุณแม่ดาราหน้ากล้องขอดูภาพจาก view finder กล้อง สวยจังเลย...ถ่ายคนแก่อายุหกสิบปีดูดี ๆ ฝีมือลูกชายถ่ายรูปให้ ต้องชมหน่อย ความสุขของพ่อแม่ คือ ภารกิจของลูก ทั้งลูกสาวลูกเขย ลูกชายลูกสะใภ้ ช่วยกันทำนะ จะได้ไม่นึกเสียใจเมื่อโอกาสพ้นผ่านไปแล้ว

วันศุกร์, มกราคม 21, 2554

นกอพยพตัวแรกปี 2554 ที่ประดู่ป่าแคมป์




กลางเดือนมกราคมปี 54 ประมาณเก้าโมงเช้า ขณะที่นั่งพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้หวายในบ้าน วิรุฬหมาศ ในสวนประดู่ป่า ซึ่งมีประตูหน้าต่างเป็นกระจกใส ได้ยินเสียงเหมือนวัตถุบางอย่างกระแทกกระจกดัง “ทึบ” จึงเดินออกไปดูข้างนอกบ้าน พบนกกะเต็นนอนอยู่กับพื้นดิน คงเจ็บหรือจุก บินต่อไปยังไม่ได้ จึงจับขึ้นมา แล้วนำไปเกาะกับกิ่งไม้ พิจารณาอย่างละเอียดนกกะเต็นตัวนี้มีขนาดเล็ก ตีนแข้งสีแดงสด สวยงามมาก ขนด้านหลังและตะโพกน้ำเงินเหลือบเขียวสดใส ปากยาว วันนี้ช่างเป็นวันดี ได้เห็นนกอยู่ในมือ ได้ช่วยเหลือนกน้อยตัวนี้ โอกาสเช่นนี้นับว่าหายาก แต่โอกาสมักมากับอุปสรรคเสมอ วันดี ๆ เช่นนี้ลืมกล้องถ่ายรูปเสียได้ รู้สึกโกรธตัวเองวันไหนที่ลืมกล้องมักมีเรื่องให้ต้องถ่ายรูป ถึงมีอุปสรรคหากมีปัญญาก็พอแก้ได้ คิดถึงโทรศัพท์มือถือที่สามารถถ่ายภาพได้จึงได้ภาพนกกะเต็นดังปรากฏ เมื่อศึกษาจากคู่มือดูนกหมอบุญส่ง เลขะกุล นกกะเต็นตัวนี้ คือนกกะเต็นน้อยธรรมดา Common Kingfisher มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Alerdo atthis เป็นนกอพยพเดือนมกราคม มาที่สวนประดู่ป่า อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก

วันศุกร์, มกราคม 14, 2554

ม้าไทย..สู่อาชาบำบัด




กิจกรรมเล็กๆด้วยปณิธานที่ยิ่งใหญ่ของ..พจญาและพงษ์ศักดิ์...ก่อตัวพลิกประดู่ป่าแคมป์ศูนย์เรียนรู้รายบุคคลเป็นสถานที่ทดลองบำบัดเด็กพิเศษด้วยอาชาบำบัด...ช่วงแรกอยู่ในระยะเตรียมม้า เตรียมคน โดยเริ่มต้นจากม้า 3 ตัวครึ่ง ขุนพันเป็นม้าตัวผู้ใจดี ตาหวานเป็นม้าสุภาพอุ้มท้องมาด้วยจากอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ส่วนเจ้าขิงตัวเมียจอมพยศชอบพาเพื่อนหนีเที่ยวไกลๆ..มีเจ้าสองและเจ้าณัฐเป็นผู้ดูแล..เหตุการณ์จะเป็นเช่นไรโปรดติดตาม.....

วันพฤหัสบดี, มกราคม 13, 2554

ผีเสื้อที่ปางสีดาในเดือนมกราคม







สีอิฐเล็ก Little Yeoman
หนอนจำปีธรรมดา Toiled Jay
หนอนพุทราธรรมดา Common Pierrot
อไซเรี่ยนเล็ก Royal Assyrian 2 รูป
ถุงทองธรรมดา เพศเมีย Golden Birdwing(ภาพแรกนะจ๊ะ)

วันอังคาร, มกราคม 11, 2554

ความสวยงามของงูเขียวหางไหม้


งูเขียวหางไหม้ท้องเหลืองเป็นงูเขียวหางไหม้ชนิดหนึ่งในหลายชนิด มีชื่อสามัญว่า White-Liped Green Pit-viper ชอบหากินบนต้นไม้ในเวลาค่ำคืน เป็นงูมีพิษอ่อนที่อันตราย เมื่อถูกกัดจะปวดบวมแดง ความอันตรายอยู่ที่การได้รับพิษมากหรือน้อย หากถูกกัดรีบไปหาหมอให้เร็วที่สุด ถ้าภาย 30 นาทีไม่ต้องรัด โดยปกติงูกลัวคนหากระมัดระวัง...ปลอดภัยแน่...ตัวนี้ซ่อนอยู่โคนก่อไผ่ที่มีหญ้าคลุมอยู่พอถางหญ้าออกเราจึงเจอกัน...ทางใครทางมันนะ

วันอังคาร, มกราคม 04, 2554

ยามศึกร่วมรบ ยามสงบทำไร่ไถนา



คนไทยทั้งแผ่นดินที่ได้เรียนประวัติศาสตร์ไทยต้องรู้ว่าควายไทยมีคุณต่อคนไทยอย่างไร ทบทวนให้ฟังอีกครั้งยังได้นะ นายจันหนวดเขี้ยวไหงละ ขี่ควายไทย ตัวใหญ่ๆ อ้วนๆ นี่แหละเข้าโรมรันกับพม่าข้าศึกสมัยก่อนเสียกรุงครั้งที่2 พ.ศ.2310 ทั้งคนและควายฝากชื่อไว้เป็นประวัติศาสตร์ของแผ่นดิน ในฐานะนักรบบางระจัน
คนเลี้ยงควายทุกคนพูดเหมือนกันว่า ควายเป็นสัตว์ฉลาด ซื่อสัตย์ อดทน เป็นเพื่อนมนุษย์มายาวนานแต่คนไม่เคยเลี้ยงควายเข้าใจว่าควายโง่ มักด่าคนโง่ว่า “โง่เหมือนควาย”
ผู้เขียนได้ไปศึกษาเรียนรู้จากโรงเรียนสอนควายให้ทำนา ณ โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ อยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว ครูสอนควายให้ไถนาหลักสูตร 3 วัน ควายก็ไถนาได้แล้ว ครูสอนคนให้ใช้ควายไถนา สอนตั้งสิบกว่าวันกว่าจะได้ ช่างเถอะ คนกับควายผูกพันกันมานานก็แล้วกัน ควายที่เห็น อยู่ที่ตลาดน้ำอโยธยา สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันอังคาร, ธันวาคม 28, 2553

จุดชมวิวที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา







อีกสองสามวันจะขึ้นปีใหม่ 2554 แล้ว มีเวลา 2-3 ชั่วโมง ตัดสินใจไปศึกษาการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของป่าในอุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว ด้วยช่วงเวลาที่เดินทางเป็นเวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. สัตว์ที่พบเห็นจึงมี ไก่ป่า นกเขาเขียว และนกอีกหลายชนิดซ่อนตัวอยู่ในเงาไม้ พบซากนกตบยุงถูกรถชนอยู่บนถนน ยามค่ำคืนนกตบยุงชอบนอนบนถนนไม่ยอมหลบแสงไฟ คนขับรถคิดว่านกน่าจะบิน นกตบยุงกลับไม่บิน สุดท้ายชีวิตนกตบยุงจบลงด้วยความคิดที่ไม่สอดคล้องกัน
ดอกไม้หลากสีบานในช่วงฤดูหนาว เจ้าหน้าที่อุทยานปรับปรุงภูมิทัศน์ ณ จุดชมวิว เพื่อรองรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยว จัดว่าปรับปรุงได้สวยงามสอดรับกับธรรมชาติ ถนนลูกรังระยะทางประมาณ ๒๐ กิโลเมตร จากบริเวณน้ำตกปางสีดาถึงจุดชมวิว อาจทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายบ้างก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของธรรมชาติ ถ้าทำให้เวลาช้าลงโดยการขับรถช้า ฝุ่นก็น้อยลงตามไปด้วยเช่นกัน
ความประทับใจของการมาครั้งนี้ อยู่ที่โป่งเกลือแร่ พบผีเสื้อถุงทองป่าสูงบินปะปนกับผีเสื้อชนิดอื่น ๆ ถุงทองป่าสูงสวยมาก ๆ ถุงทองป่าสูงบินไม่หยุดจึงไม่สามารถถ่ายภาพได้เลย

วันจันทร์, ธันวาคม 27, 2553

ความต่างระหว่างผีเสื้อถุงทองธรรมดากับถุงทองป่าสูง






ผีเสื้อถุงทองจัดเป็นผีเสื้อที่สวยที่สุด สวยขนาดที่มีผู้ขนานนามว่าเป็น “ราชินีผีเสื้อแห่งสยาม” ด้วยความโดดเด่นของสีปีกที่มีสีดำตัดกับสีเหลืองทอง จึงมองเห็นแต่ไกล ด้วยนิสัยที่บินสูงจับต้องยากผู้คนจึงอยากได้ไว้ในครอบครอง สุดท้ายต้องกำหนดให้ผีเสื้อถุงทองเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามมีการซื้อขายและมีไว้ในครอบครอง กฎหมายช่วยยืดเวลาสูญพันธุ์ของผีเสื้อถุงทองมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
ผีเสื้อถุงทองในภาพเป็นผีเสื้อถุงทองธรรมดาที่ถ่ายได้ตอนเช้าในฤดูหนาว ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว ผีเสื้อถุงทองธรรมดาดูดน้ำหวานจากดอกเข็มริมสระน้ำ ให้สังเกตปีกคู่หลังของผีเสื้อถุงทองธรรมดาจะเห็นมีสีดำแต้มปนอยู่กับสีเหลืองทอง ส่วนผีเสื้อถุงทองป่าสูง ซึ่งถ่ายจากผีเสื้อที่สต๊าฟไว้ของโครงการพระราชดำริเขาหินซ้อน พบว่าปีกคู่หลังของผีเสื้อถุงทองป่าสูงเป็นสีเหลืองทองเกือบทั้งหมดมีเส้นดำเล็กๆเท่านั้น
จุดนี้คือความต่างเบื้องต้นที่ใช้สังเกตจำแนกผีเสื้อถุงทองทั้งสองชนิด
ข้อมูลเพิ่มเติมจากการสืบค้นภาพโปสเตอร์ผีเสื้อคุ้มครองโดยได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่โครงการ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 53ภาพดังปรากฏ

วันจันทร์, ธันวาคม 20, 2553

กระรอกขาวกับคนขายส้มตำ



บริเวณก้นอ่าวปลายหาดแม่รำพึง เกือบถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นบริเวณที่เว้าโค้งของหาดทรายคล้ายอ่าวมะนาวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชายหาดสวย มีทิวสนกั้นระหว่างหาดทรายกับถนน เป็นระยะทางนับสิบกิโลเมตร เมื่อมีต้นไม้แม้จะเป็นเพียงสน นก กา กระรอก ก็พออาศัยและปรับตัวให้อยู่รอดในบริเวณนี้
กระรอกหลากสีบริเวณก้นอ่าวมีมิตรเป็นแม่ค้าที่ขายของให้นักท่องเที่ยวบริเวณชายหาด แม่ค้านำตะกร้าผูกไว้บริเวณต้นสน นำผลไม้ กล้วย มาใส่ไว้ให้กระรอกกิน กระรอกบริเวณก้นอ่าวไม่ได้กินอาหารทุกอย่างที่แม่ค้านำมาให้ แต่จะเลือกกินผลไม้ที่ชอบ เช่น องุ่น กล้วยก็ไม่ค่อยกิน
ผู้เขียนสังเกตเห็นแม่ค้าส้มตำถืออาหารบางอย่างไว้ในมือ เดินไปที่ต้นสน กระรอกวิ่งลงมาโคนต้นสนหลายตัว ลงมากินอาหารในมือแม่ค้าส้มตำ แม่ค้าส้มตำบอกว่า “กระรอกที่ก้นอ่าวชอบถั่วทอดเป็นอันดับหนึ่ง ทอดไหม้ก็ไม่กิน เลือกซะด้วย” พูดยิ้ม ๆ ไม่รู้ว่าคิดอะไร สำหรับผู้เขียนคิดในใจว่า “แม้แต่กระรอกยังเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเองเลย แล้วเราละ...เออ..”

วันอังคาร, ธันวาคม 07, 2553

ต้นยางนา “สวนป่าไตรตรึงษ์”




ต้นยางนา เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ให้ประโยชน์โดยเฉพาะคุณค่าของเนื้อไม้ ใช้ในการปลูกสร้างบ้านเรือน การจะตัดต้นยางนา ต้องได้รับอนุญาตก่อนเพราะมีกฎหมายบังคับไว้ แต่ทุกคนสามารถปลูกต้นยางนาเป็นมรดกสวนป่าเพื่อให้ลูกหลานใช้ประโยชน์ได้
รินถนนพหลโยธินขาขึ้นเหนือ ใกล้ถึงจังหวัดตาก มีสวนป่าต้นยางนาที่สวยงามมาก พื้นที่ประมาณ 30 ไร่ ชื่อสวนป่าไตรตรึงษ์ ปลูกโดยป่าไม้จังหวัดนครสวรรค์ ปลูกเมื่อ พ.ศ. 2505 นับถึงปีนี้ป่าสวนยางนาปลูกมาแล้วสี่สิบแปดปี ต้นยางนาสูงใหญ่โดยทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 50 เซนติเมตร ป่าต้นยางนาดูร่วมรื่น อากาศบริเวณนั้นสดชื่นในยามเที่ยงวัน
คุณค่าของสวนป่าต้นยางไตรตรึงษ์ เป็นคุณค่าของแหล่งเรียนรู้ที่บอกเล่าการเจริญเติบโตของต้นไม้ คือต้นยางนาให้กับผู้สนใจอยากศึกษารายละเอียด เรามาร่วมกันปลูกต้นไม้ รักและดูแลต้นไม้ แม้คนละต้น ถ้าปลูกกันทั้งประเทศ ต้นไม้จะเพิ่มขึ้นถึง 60 ล้านต้นเชียวแหละ

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 18, 2553

ทุ่งรวงทองปลอดสารพิษที่สวนประดู่ป่า



เราตั้งใจที่จะทำให้ประดู่ป่าแคมป์เป็นสถานที่ปลอดภัยกับทุกชีวิตในสถานที่แห่งนี้ เราไม่ใช้สารเคมี ใส้เดือนและแมลงเล็กๆในดินอยู่ได้เป็นเพื่อนกัน เราใช้ปุ๋ยชีวภาพ นกกาอาศัยจะได้มีความสุข จับหนอนจับตัวเบียนในนาข้าวกินเป็นอาหารให้เรา......ทุกชีวิตล้วนมีสุข

วันอังคาร, พฤศจิกายน 02, 2553

รอยสักศิลปะบนเรือนร่าง








สัญชาตญาณหนึ่งมีติดมากับยีน(Gene)โคโมโซมของมนุษย์แต่ดึกดำบรรพ์ คือ สัญชาตญาณการพรางตัวมนุษย์พรางตัวให้กลมกลืนกับสถานที่ เพื่อการล่าหรือเพื่อการหลบหลีก อาจใช้สีจากดิน หิน โคลน มาทาใบหน้าและร่างกายในยุคแรก ๆ ต่อมามีการพัฒนารูปแบบการพรางตัวเป็นรอยสักบนเรือนร่าง การสักก็มีพัฒนาการ วัตถุประสงค์ของการสักตามยุคตามสมัย ดังเช่น การสักบนเรือนร่างเมื่อประมาณหนึ่งร้อยปีย้อนไป วัตถุประสงค์ของการสักเพื่อให้ร่างกายอยู่ยงคงกะพัน (หนังเหนียว) แทงฟันไม่เข้า เพราะยุคสมัยนั้นสู้รบกันด้วยอาวุธมีคม ในระยะประชิดตัว เพื่อรักษาชีวิตจึงต้องหาทางป้องกันร่างกายโดยการหาสารจากพืช เช่นจากต้นสบู่เลือดมาเป็นส่วนผสมกับสีของต้นคราม ลักลงไปบนผิวหนัง โดยเชื่อว่าผิวหนังจะอยู่ยงคงกะพัน และเพื่ออำพรางร่างกายได้ การสักยังบอกชั้นของบุคคลในสังคมนั้น เช่นหากชายใดสักเป็นรูปกางเกงขาสั้นตั้งแต่เอวลงไปต้นขา สักบริเวณอวัยวะเพศด้วย เมื่อลงอาบน้ำในแม่น้ำ เขาได้รับสิทธิ์การอาบน้ำเหนือน้ำทุกคนยอมรับ(จากความทรงจำในอดีตของผู้เขียน)
ปัจจุบันการสักพัฒนาไปไกลมาก มีการใช้สีสันหลากสีมาร่วมประกอบการสัก ใช้เครื่องมือช่วยสักที่ไม่สร้างความเจ็บปวดมากนัก การสักจึงเพื่อความสวยงามเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็เพื่อความเชื่อเรื่องเมตตามหานิยม สักแล้วทำให้คนรัก คนชม การสักเพื่อให้อยู่ยงคงกะพันนั้นเบาบางจากหายไป
หมายเหตุ ภาพที่เห็นเป็นรอยสักของชาวมอญ ชื่อเผือก สักโดยเพื่อนที่ซื้อเครื่องสักมาจากประเทศมาเลเซียราคาประมาณหนึ่งพันบาท ผู้สักดูภาพเป็นแบบแล้วสักตามจินตนาการโดยไม่เคยสักมาก่อนเลย

วันจันทร์, พฤศจิกายน 01, 2553

โคมลอย



“โคมลอย” คำนี้หากกล่าวกับคนในภาคเหนือ ทุกคนเข้าใจเป็นอย่างดี ถึงความหมาย ถึงรูปแบบของกิจกรรมว่าเป็นอย่างไร แต่สำหรับคนไทยในภาคอื่นแล้ว อาจต้องขยายความถึงกิจกรรมและความเชื่อ ซึ่งเป็นที่มาของ “โคมลอย”
ในอดีต (50 ปีที่ผ่านมา) คนในภาคเหนือมองเห็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งบนท้องฟ้ายามบ่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะช่วงเวลาใกล้วันเพ็ญเดือนสิบสอง วันลอยกระทง ปรากฏการณ์นั้นคือโคมลอยหลากสีลูกใหญ่ ๆ คำว่าใหญ่คือขนาดประมาณ กว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร สูง 2 เมตร ลอยอยู่บนท้องฟ้าซึ่งถูกปล่อยจากวัดเกือบทุกวัด โคมลอยสมัยนั้นเป็นโคมลอยที่บรรจุอากาศร้อนเข้าไปในโคมกระดาษที่ทำจากกระดาษทำว่าว โดยการเผาหญ้าหรือฟางดิบให้เกิดควันสีขาว เมื่อควันเข้าไปในโคมกระดาษมากพอ ควันร้อน สีขาวซึ่งมีมวลเบาก็จะพาโคมกระดาษลอยขึ้นไปในอากาศเป็นโคมลอย ลอยได้สูงและไปไกลสุดตาโคมลอยชนิดนี้ไม่มีอันตรายใด ๆ
ความเชื่อในเรื่องการลอยโคมลอยเป็นความเชื่อในทางพุทธศาสนาของคนล้านนา ถึงการบูชาพระบรมสารีริกธาตุพระจุฬามณี (มวยผม) ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพิธี “จุดประทีปโคมลอยคืนยี่เปง”
ปัจจุบันคนในภาคเหนือนำเอาทั้งประทีปและโคมลอยมาไว้ด้วยกันและลอยโคมในเวลากลางคืน โคมลอยจึงมีไฟจุดอยู่ด้านล่าง บางครั้งอุบัติเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นจากประทีปด้านล่างของโคมลอยดับไม่ทันความเสียหายเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งเหมือนกัน